อยาก ทำตาสองชั้นแต่เป็นคีลอยด์ง่าย? เลือกผ่าแบบไหนดี เจาะลึกเทคนิคแผลสวยสำหรับคนเป็นคีลอยด์ง่าย
การทำตาสองชั้น แต่เป็นคีลอยด์ง่าย นั้น ถือเป็นความฝันที่มาพร้อมกับความกังวลใจอย่างใหญ่หลวง สำหรับผู้ที่สนใจทำตาสองชั้น แต่เป็นคีลอยด์ Keloid ได้ง่าย หลายคนมักมีคำถามที่ว่า “เป็นคีลอยด์ง่าย ทำตาสองชั้นได้ไหม? “ถ้าทำแล้วแผลจะนูนแข็งหรือเปล่า? แต่สำหรับผู้ที่มีประวัติผิวหนังเกิด “แผลเป็นคีลอยด์” ได้ง่าย ความฝันนี้มักมาพร้อมกับความกังวลใจอย่างใหญ่หลวง กลายเป็นกำแพงที่ทำให้หลายคนไม่กล้าตัดสินใจ
ในฐานะศัลยแพทย์ตกแต่ง ผมเข้าใจความกังวลนี้เป็นอย่างดี บทความนี้จะมาไขทุกข้อข้องใจ ให้ข้อมูลทางการแพทย์ที่ถูกต้อง และแนะนำเทคนิคการทำตาสองชั้นที่ออกแบบมาเพื่อลดความเสี่ยงการเกิดแผลเป็นให้น้อยที่สุด เพื่อให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย

“เปลือกตา” กับโอกาสเกิด “แผลคีลอยด์”
ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจธรรมชาติของแผลคีลอยด์และผิวหนังบริเวณเปลือกตาให้ถูกต้องก่อน
แผลคีลอยด์ (Keloid) คือ แผลเป็นชนิดหนึ่งที่ร่างกายสร้างคอลลาเจนออกมาซ่อมแซมแผลมากเกินไป ทำให้แผลขยายตัวนูนใหญ่และมีสีคล้ำกว่าผิวปกติ มักเกิดบริเวณที่มีความตึงของผิวสูง เช่น หน้าอก หัวไหล่ หรือติ่งหู
ข่าวดีคือ: ผิวหนังบริเวณเปลือกตาเป็นบริเวณที่เกิดแผลเป็นคีลอยด์ได้ยากที่สุดในร่างกาย! ด้วยเหตุผล 3 ประการคือ:
- เป็นผิวที่บางที่สุด: ทำให้แรงตึงผิว (Skin Tension) น้อยมาก
- มีเลือดมาเลี้ยงเยอะ: ช่วยให้กระบวนการสมานแผลเป็นไปอย่างสมบูรณ์และรวดเร็ว
- ไม่มีต่อมไขมันมาก: ลดปัจจัยเสี่ยงในการอักเสบ

ดังนั้น แม้คุณจะมีประวัติเป็นคีลอยด์ที่ส่วนอื่นของร่างกาย โอกาสที่จะเกิดคีลอยด์บนแผลผ่าตัดตาสองชั้นนั้นมีน้อยมาก แต่ถึงกระนั้น การเลือกเทคนิคที่เหมาะสมก็ยังเป็นสิ่งสำคัญที่สุดเพื่อความสวยงามและปลอดภัยสูงสุด
รวม 3 เทคนิคทำตาสองชั้น ที่เหมาะกับคนเป็นคีลอยด์ง่าย
สำหรับผู้ที่กังวลเรื่องแผลเป็น การเลือกเทคนิคที่มีการรบกวนเนื้อเยื่อน้อยที่สุดและมีขนาดแผลเล็กที่สุด คือหัวใจสำคัญ
1. เทคนิคเย็บ 3 จุด (Suture Technique)
- หลักการ: เป็นการสร้างชั้นตาโดยไม่ต้องกรีดเปิดแผลยาว ศัลยแพทย์จะเจาะรูขนาดเล็กมากๆ (ประมาณ 1 มม.) 3 จุด แล้วใช้ไหมชนิดพิเศษเย็บยึดระหว่างกล้ามเนื้อตากับผิวหนังเพื่อสร้างรอยพับของชั้นตาขึ้นมา
- เหมาะกับใคร: คนที่เปลือกตาไม่หนามาก ไขมันไม่เยอะ และหนังตาไม่ตก
- ข้อดีสำหรับคนกลัวคีลอยด์: แทบไม่มีโอกาสเกิดแผลเป็นเลย เพราะเป็นเพียงรูขนาดเล็ก ไม่มีการกรีดผิวหนัง พักฟื้นไวมากและดูเป็นธรรมชาติ
- ข้อจำกัด: ชั้นตาอาจหลุดได้ในอนาคต
2. เทคนิคกรีดสั้น (Short Incision Technique)
- หลักการ: เป็นการผสมผสานระหว่างการกรีดและการเย็บ โดยเปิดแผลขนาดเล็กประมาณ 1-1.5 ซม. บริเวณกลางเปลือกตา เพื่อนำไขมันส่วนเกินออกเล็กน้อยและสร้างชั้นตาที่ถาวรขึ้น
- เหมาะกับใคร: คนที่มีไขมันเปลือกตาเล็กน้อย แต่หนังตาไม่ตกหย่อนมากเกินไป
- ข้อดีสำหรับคนกลัวคีลอยด์: แผลมีขนาดเล็กมากและซ่อนอยู่ในรอยพับของชั้นตา ทำให้มองไม่เห็น และด้วยขนาดแผลที่สั้นมาก โอกาสเกิดแผลนูนจึงน้อยอย่างยิ่ง
- ข้อจำกัด: ไม่สามารถตัดหนังตาส่วนเกินออกได้มาก
3. เทคนิค Scarless ซ่อนแผล แผลขนาดมินิ ( Mini Incision- No Suture)
สำหรับผู้ที่มีหนังตาตกหรือไขมันเยอะจนจำเป็นต้องกรีดยาว ก็อย่าเพิ่งหมดหวัง! เทคนิคของศัลยแพทย์คือคำตอบ
- หลักการ: แม้จะเป็นการลงแผลที่เล็กมาก แต่แนวพับตาเกิดขึ้นตลอดทั้งแนวชั้นตา แต่ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะใช้เทคนิคพิเศษในการผ่าตัด เช่น
- การออกแบบชั้นตาที่แม่นยำ: วางตำแหน่งแผลในรอยพับธรรมชาติอย่างสมบูรณ์แบบ
- ความนุ่มนวลในการผ่าตัด: ลดการชอกช้ำของเนื้อเยื่อให้น้อยที่สุด
- ข้อดีสำหรับคนกลัวคีลอยด์: เมื่อทำโดยศัลยแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง แผลจะเรียบเนียนเป็นเพียงเส้นบางๆ ที่ซ่อนในชั้นตา และโอกาสเกิดคีลอยด์ยังคงต่ำมาก
หัวใจสำคัญที่สุด: การดูแลแผลหลังผ่าตัดเพื่อป้องกันคีลอยด์
การเลือกเทคนิคที่ดีเป็นเพียงครึ่งทาง การดูแลตัวเองหลังผ่าตัดคืออีกครึ่งที่จะการันตีแผลที่สวยงาม
- รักษาความสะอาด: ป้องกันการติดเชื้อซึ่งเป็นตัวกระตุ้นการสร้างแผลเป็น
- หลีกเลี่ยงน้ำและแสงแดด: ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก แสงแดดและ UV เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้แผลคล้ำและนูนได้
- ทายาตามสั่ง: ใช้ยาฆ่าเชื้อหรือขี้ผึ้งที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
- ใช้ซิลิโคนเจล/แผ่นแปะซิลิโคน: (สำคัญมาก) หลังจากแผลแห้งสนิทและตัดไหมแล้ว (ประมาณ 7-14 วัน) การทาซิลิโคนเจลจะช่วยควบคุมการสร้างคอลลาเจน ลดโอกาสแผลนูนได้อย่างมีนัยสำคัญ
- งดการขยี้ตา: และหลีกเลี่ยงการสัมผัสแผลโดยไม่จำเป็น
บทสรุป: เป็นคีลอยด์ง่าย ทำตาสองชั้นได้…แค่ต้องเลือกให้ถูก
การเป็นคนผิวคีลอยด์ง่าย ไม่ได้เป็นข้อห้าม ของการทำตาสองชั้น แต่เป็นข้อควรระวังที่ทำให้คุณต้องใส่ใจในการเลือกมากกว่าคนอื่น สรุปหัวใจสำคัญคือ:
- ความเสี่ยงต่ำ: เปลือกตาเป็นบริเวณที่เกิดคีลอยด์ได้ยากมาก
- เลือกเทคนิคแผลเล็ก: เทคนิคเย็บจุดและกรีดสั้นคือทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุด
- เลือกศัลยแพทย์: ความชำนาญและเทคนิคการเย็บแผลของแพทย์คือปัจจัยชี้ขาด
- วินัยในการดูแลแผล: การปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดจะช่วยป้องกันแผลนูนได้
หากคุณยังมีความกังวลใจ ขั้นตอนที่ดีที่สุดคือการนัดหมายเพื่อ ปรึกษาศัลยแพทย์ตกแต่งผู้ชำนาญการ เพื่อตรวจประเมินสภาพผิวและเปลือกตาของคุณอย่างละเอียด และวางแผนการผ่าตัดที่เหมาะสมกับคุณโดยเฉพาะ เพื่อให้ได้ดวงตาที่สวยงามและปลอดภัยอย่างที่คุณตั้งใจ