จะเอายังงัยดี กะ ตาสองชั้น ( ของช่าน—-ดี)

อยากทำตาสองชั้นแบบเกาหลี? เช็คก่อน! 5 ลักษณะตาที่ “ไม่เหมาะ” กับวิธีนี้หมอทำตา ที่เก่งที่สุด

ตอนนี้ Trend เกาหลีมาแรง อะไร อะไร ก็ขอให้เป็นเกาหลี รับรองขายได้ ช่อง 3 -7 ถึงขนาดเอา Series เกาหลีมาฉายใหม่ ซ้ำแล้ว ซ้ำอีก แต่ rating ดีไม่มีตก ผมเองก็เป็นคนนึ่งที่ ติดSeries เกาหลี เรียกได้ว่า ผ่าตัดไปดูไปเลยทีเดียว  ( ก็ดูแบบดาราเกาหลีในทีวีงัย )
เมื่อหันมาดูด้านศัลยกรรมบ้าง ก็พบว่า คนไข้ส่วนใหญ่ก็ขอศัลยกรรมแบบเกาหลีด้วยเหมือนกัน ตั้งแต่ ทำตาสองชั้นเกาหลี เสริมจมูกเกาหลี   เสริมคางเกาหลี หน้าเรียวเกาหลี   botox เกาหลี ขาเรียวเกาหลี Stem cell เกาหลี หรือแม้กระทั้ง เสริมหน้าอกเกาหลี อันสุดท้ายเนี่ย ทำให้ผมถึงกับงง แล้ว ถามคนไข้กลับไปว่า ไปดูมาจากไหนหรอ หน้าอกเกาหลี  ??   ( มีSeries  ด้วยหรอ : )  คนไข้ตอบกลับมาว่า อ้าวเห็นเป็น คลินิกศัลยกรรมเลยคิดว่ามี
ย้อนกับไปดู หัวข้อเรื่อง ตาสองชั้น ของฉัน จะเอางัยดี ?? ก็พบว่า หลายครั้งที่คนไข้มาขอผ่าตัดตาแบบเกาหลี แต่หมอหลายคนบอกว่าทำไม่ได้ แล้วอธิบายเหตุผลแก่คนไข้ไป แต่คนไข้กลับไม่เชื่อ แล้วบอกกับหมอว่า มาผ่าตัดตาเกาหลีทำไมหมอไม่ผ่าให้  ผมจึงขออธิบาย

ลักษณะตาแบบที่เหมาะกับ การผ่าตัดตาแบบเกาหลี– ตามความเข้าใจของคนไข้ ซึ่งชื่อ จริงๆของ technique นี้คือ  ( Buried Suture technique – หรือ เจาะ 3 จุด ) ให้ฟังดังนี้นะครับ

1 ) หนังตาไม่หนา

2 ) ไขมันหรือถุงไขมันที่เปลือกตาบนไม่เยอะ

3 ) ชั้นตาไม่มี หรือเป็นชั้นตาแบบหลบใน

4 ) อายุอยู่ในช่วง 18  – 30 ปี

 

ถ้ามีลักษณะดังกล่าวถือว่าเป็นบุคคลที่เหมาะกับการผ่าตัดตาแบบเกาหลี เมื่อเขียนมาถึงตรงนี้ บางคนอาจไม่ทราบว่าการผ่าตัดตาแบบเกาหลี หมายความว่าอย่างไร จึงขออธิบายสั้นๆว่า เป็นการผ่าตัดฝังปมไหมไว้ใต้ผิวหนัง  ( Buried Suture technique ) โดยอาจจะมีแผลผ่าตัดเป็นจุดเล็ก 2-3 จุด บริเวณเปลือกตา ไม่มีการผ่าตัดเอาหนังตาออกไป แต่อาจมีการเจาะเอาไขมันบริเวณเปลือกตาบนออกตามจุดที่เจาะไว้    จากประสบการณ์ของหมอพบว่า
ข้อดีของ technique นี้คือ 
1 ) ใช้เวลาในการผ่าตัดสั้น คือแค่ 20 นาทีเท่านั้น
2  ) แผลผ่าตัดน้อย โดยมีจำนวนแผลผ่าตัด 2 – 3 แผล ความยาวของแต่ละแผลประมาณ  3 มิลลิเมตร
3 ) พักพื้นประมาณ  3 สัปดาห์
ส่วนข้อเสียที่พบ คือเมื่อทิ้งระยะไปประมาณ3 -6 เดือน ชั้นตาที่ได้ค่อนข้างมีขนาดเล็กลง จนเกือบเหมือนไม่ได้ทำ ( อันนี้แล้วแต่คุณหมอแต่ละท่านนะครับ หลายๆท่านก็ทำแล้ว สวยคงทนนานอยู่ตลอด  ) เนื่องจากหนังตาที่ไม่ได้ตัดออกจะลงปิดบังชั้นตาที่เกิดขั้นภายหลัง

แล้วคนไข้แบบไหนที่ ไม่เหมาะแล้วไม่ต้องไปคิดถึง การผ่าตัดตาแบบเกาหลี ( Buried Suture Technique ) ก็คือคนไข้ในกลุ่มดังกล่าวนี้ครับ

1 ) หนังตาตกตามอายุ ( อายุ 30 ปีขึ้นไป )
จะสังเกตุได้จากเมื่อเขียน eye liner แล้ว เลอะเปลือกตา หรือเขียนได้ไม่สวยเหมือนก่อน  หรืออาจพบว่า ตาที่เคยมี 2 ชั้น กลายเป็น 3 ชั้น นั้นก็เป็นอาการแสดงหนังตาตก  หรือคนไข้บางคนอาจมีอาการของขนตาแยงตาทำให้มีอาการเคืองตาน้ำตาไหนบ่อยๆๆ ( ถ้ามีอาการขนาดนี้ควรรีบรักษาโดยด่วน เนื่องจากขนตาอาจก่อให้เกิด แผลบริเวณกระจกตาได้)

คำอธิบายและวิธีการผ่าตัดที่เหมาะสม :
ชั้นตาคนไข้เริ่มตก สังเกตว่ามองไม่เห็นแนวขนตา เนื่องจากขนตาม้วนเข้า อาจทำให้เกิดการระคายเคืองตาได้
การผ่าตัดที่แนะนำในคนไข้ลักษณะนี้คือ การผ่าตัด Traditional Blepharoplasty หรือ อีกวิธีคือ Scarless Technique

2 ) ผิวหนังบริเวณเปลือกตาหนา และมี ถุงไขมันบริเวณเปลือกตามาก  สังเกตุว่า ตาจะดูปูดๆๆ ตาโปนๆ  

คำอธิบาย และวิธีการผ่าตัดที่เหมาะสม
สำหรับคนไข้ที่มีลักษณะ ตาแบบนี้ การผ่าตัดที่เหมาะสมคือ การผ่าตัดแบบตัดแต่งหนังตาและเอาไขมันออกบางส่วน ( Traditional Blepharoplasty + Fat removal  ) หรือ ทำการผ่าตัดแบบ Scarless Technique + fat removal

 

3 ) กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง   ( Ptosis  ) 
ลักษณะที่เห็นบ่อยๆ คือ ตาจะดูเหมือนเศร้า ตาดูเหนื่อยๆอยู่ตลอดเวลา หรือเหมือนกับ ง่วงอยู่ตลอดเวลา

หมอศัลยกรรมตาที่เก่งที่สุด

ซึ่งลักษณะดังกล่าวต้องแก้ไขด้วยการผ่าตัด ย่นระยะกล้ามเนื้อตา ( Levator plication ) หรือการผ่าตัด ตัดกล้ามเนื้อตา muller ( Muller resection  )  ซึ่งจากประสบการณ์ของ หมอ หมอคิดว่า การทำ Muller resection ได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า

4 ) ชั้นตามีหลายชั้น และ เบ้าตาลึก ( Multiple Fold & Sunken eye )
ลักษณะที่เห็นคือ ชั้นตาคนไข้มีหลายชั้น  และมีเบ้าตาลึก เนื่องจากไขมันที่ล้อมรอบลูกกะตานั้นหายไป

แก้ไขกล้ามเนื้อตา หมอเกมส์

คำอธิบายและวิธีการผ่าตัด
ตาลักษณะนี้ คนไข้เริ่มสังเกตว่า ชั้นตาเริ่มมีหลายชั้นซ้อนกัน ไม่ทราบสาเหตุ วิธีการผ่าตัดคือ การผ่าตัดสามารถทำได้ตั้งแต่ Traditional Blepharoplasty + fat transposition และ Scarless technique

5 )  ชั้นตาไม่เท่ากัน ใหญ่ข้างเล็กข้างหรือ ตาชั้นเดียวข้างแต่อีกข้างเป็นสองชั้น  ( Uneven Double eyelids )
ตรงเราตาไม่เท่ากันนั้นถือว่าเป็นเรื่องปกตินะครับ  เพราะคนเราหลายๆคนเกิดมาก็มีใบหน้าไม่ได้เท่ากันเยอะนะครับ นับประสาอะไรกับชั้นตา  แต่ถ้าเรามีตาไม่เท่ากันแล้วมันทำให้เราดูผิดปกติมากๆ เราก็แก้ไขกันนะครับ

คำอธิบาย และวิธีการผ่าตัด
หลายคนมีชั้นตาไม่เท่ากัน แต่งหน้าหรือ วาด eye liner ยาก บางคนอายุน้อยอยู่และไม่อยากผ่าตัดโดยวิธีการกรีดแผลยาวๆ หมอก็แนะนำวิธี Scarless Technique นะครับ

เมื่อท่านผู้อ่านทราบดังนี้ จะทำให้อย่างน้อยจะได้ไม่ fixed idea ไปบอกคุณหมอว่า ขอผ่าตัดแบบตาเกาหลี เพราะถ้าคุณหมอท่าน ตามใจคนไข้ แล้วผ่าตัดไปอาจได้ผลลัพธ์ที่ไม่พึงปรารถนา ขอให้คิดไว้ว่า ไม่มีวิธีการผ่าตัดตาแบบใดเหมาะสำหรับทุกลักษณะขอตา แต่ควรหาวิธีการผ่าตัดที่เหมาะกับตาของท่านจะดีกว่าครับ

แต่ สำหรับหมอแล้ว หมอไม่ได้ผ่าตัดแบบ เทคนิคเกาหลีนะครับ  เพราะหมอผ่าตัดแบบ Scarless Technique   เพราะหมอถนัดกว่า และคิดว่ามีข้อดีมากกว่า ข้อเสีย
มีคนไข้ถามว่า วิธีของหมอ ชั้นตาจะหลุดไหม หมอบอกว่า หลุดได้ครับ อัตราการหลุดพอๆ กันกับการผ่าตัดวิธีอื่นๆ  แต่ หลุดแล้วก็สามารถกลับมาแก้ไขได้ง่ายกว่า เพราะ รอยแผลจะมีเพียงจุดเดียว เวลาจะแก้ก็เข้าไปแก้เพียงจุดเดียวแล้ว เย็บใหม่
ไม่เหมือนวิธี การเจาะ 3 จุด ( Buried Suture technique )  เพราะ ถ้าจะแก้ในกรณีที่ทำการเจาะ 3 จุดไปแล้ว ต้องเข้าไปแก้ปมไหม ที่เย็บไว้ออกทั้ง 3 จุดก่อน เพราะ ในกรณีไหมหลุด มันอาจไม่ได้หลุดทั้ง 3 จุด
ยิ่งถ้าทำการผ่าตัดแบบกรีดชั้นตามาแล้ว เกิดมีปัญหาว่าชั้นตาไม่เท่ากัน หรือ กรีดไปแล้วชั้นตาหลุด หรือกรีดแล้วมีชั้นตาเกิดขึ้นมากกว่า 2ชั้น บอกได้เลยว่า ยิ่งแก้ยาก ถึงยากมากที่สุด

แต่อย่างที่บอกนะครับว่า การผ่าตัดแต่ละวิธีไม่ว่าจะเป็น แบบ buried suture technique หรือ แบบ Scarless technique เหมาะสมกับตาคนไข้ในแต่ละคนต่างกัน  ตัวของหมอคนผ่าเองก็เหมือนกัน ทำวิธีเดียวกันแต่ผลลัพธ์ ที่ได้แตกต่างกัน นอกจากนี้ยังเกี่ยวกับประสบการณ์ของหมอแต่ละท่านด้วย ( จำนวน case ที่ทำการผ่าตัดไม่ได้แปรผันตาม อายุที่มากขึ้นะครับ )
หมอเองก็เอาประสบการณ์การผ่าตัดรวมถึงจำนวนที่ผ่าตัดไปนำเสนอในงานประชุมนานาชาติ อยู่หลายครั้งนะครับ

ไม่แน่ใจว่าดวงตาของคุณเหมาะกับการทำตาสองชั้นแบบไหน? ให้การประเมินอย่างละเอียดจากศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นคำตอบที่ดีที่สุด นัดคิวเพื่อเข้ามาปรึกษาและออกแบบชั้นตาที่เหมาะสมกับคุณโดยเฉพาะได้แล้ววันนี้”

ความสำคัญของการเลือก หมอที่ทำตาที่เก่งที่สุด

 เหตุผลในการเลือกหมอที่เชื่อถือได้

การเลือกหมอทำตา ไม่ใช่แค่การเลือกซื้อของสวยๆ งามๆ แต่มันคือการตัดสินใจครั้งสำคัญที่ฝากอวัยวะที่ละเอียดอ่อนที่สุดชิ้นหนึ่งของร่างกายไว้ในมือของคนคนหนึ่งครับ เหตุผลที่เราต้องพิถีพิถันไม่ใช่แค่เรื่องความสวยงาม แต่เป็นเรื่องของ ความปลอดภัย เป็นอันดับแรก การผ่าตัดทุกชนิดมีความเสี่ยง การเลือกทำกับศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านกายวิภาคอย่างลึกซึ้ง จะช่วยลดความเสี่ยงเหล่านั้นลงได้อย่างมหาศาล หมอที่ทำตาที่เก่งที่สุด สามารถให้คำปรึกษาและดูแลคุณได้อย่างมั่นใจครับ

ต่อมาคือ ผลลัพธ์ในระยะยาว ดวงตาคู่นี้จะอยู่กับเราไปอีกหลายสิบปี การผ่าตัดที่ดีไม่ควรมองแค่ว่าสวยในวันแรกที่ยุบบวม แต่ต้องคาดการณ์ไปถึงอนาคตว่าเมื่อเวลาผ่านไป ชั้นตาจะยังคงสวยงามและเป็นธรรมชาติหรือไม่ และสุดท้ายคือ ความสบายใจ การได้ฝากดวงตาไว้กับหมอที่เราเชื่อใจ ทำให้เราผ่านช่วงเวลาผ่าตัดและพักฟื้นไปได้โดยปราศจากความกังวล และมั่นใจได้ว่าหากเกิดปัญหาที่ไม่คาดคิดขึ้น เราจะอยู่ในการดูแลของผู้ที่มีความสามารถรับมือได้อย่างแน่นอนครับ

 ผลกระทบของการเลือกหมอที่ไม่เหมาะสม

ในทางกลับกัน การตัดสินใจผิดพลาดเพียงครั้งเดียวอาจนำมาซึ่งผลกระทบที่น่าเสียใจไปตลอดชีวิต หมอบอกได้เลยว่าเคสแก้ตานั้นยากกว่าการทำครั้งแรกหลายเท่าตัว ผลกระทบที่เห็นได้ชัดที่สุดคือ ผลลัพธ์ที่ไม่เป็นธรรมชาติ เช่น ชั้นตาที่ดูลึกเป็น “ไส้กรอก”, ชั้นตาสูงหรือปลิ้นจนดูหลอกตา หรือเห็นรอยแผลเป็นชัดเจนเวลาหลับตา ซึ่งสิ่งเหล่านี้บั่นทอนความมั่นใจอย่างรุนแรง ผลกระทบเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่าการหาหมอที่ทำตาที่เก่งที่สุดตั้งแต่แรกสำคัญมากครับ

นอกจากเรื่องความสวยงามแล้ว ยังอาจเกิด ปัญหาด้านการใช้งาน ตามมาได้ เช่น ภาวะหลับตาไม่สนิทซึ่งนำไปสู่โรคตาแห้งเรื้อรัง, ขนตาม้วนเข้าทิ่มกระจกตา หรือชั้นตาที่ไม่เท่ากันอย่างชัดเจน ผลกระทบเหล่านี้ไม่ได้จบแค่เรื่องทางกายภาพ แต่ยังส่งผลกระทบทาง จิตใจ ทำให้เกิดความเครียด, สูญเสียความมั่นใจ และยังต้องเสีย ค่าใช้จ่ายและเวลา เพิ่มเติมเพื่อทำการผ่าตัดแก้ไข ซึ่งทั้งเจ็บตัวและเจ็บใจ การเลือกหมอที่ใช่ตั้งแต่ครั้งแรกจึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดครับ

 คุณสมบัติที่ควรมองหาใน หมอศัลยกรรมตาที่เก่งที่สุด

 ประสบการณ์และความชำนาญ

คำว่า “ประสบการณ์” ไม่ได้วัดกันที่ “อายุ” หรือ “จำนวนปี” เพียงอย่างเดียว แต่ต้องดูที่ความลึกและความเชี่ยวชาญเฉพาะทางเป็นสำคัญ อันดับแรกที่คนไข้ควรตรวจสอบคือวุฒิบัตร ศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทาง จากแพทยสภา ซึ่งเป็นเครื่องการันตีว่าแพทย์ท่านนั้นได้ผ่านการเรียนรู้และฝึกฝนด้านศัลยกรรมตกแต่งมาอย่างเข้มข้นและครบถ้วน ไม่ใช่แค่การเข้าคอร์สอบรมระยะสั้น ยิ่งหมอที่ทำตาที่มีชื่อเสียงและได้รับการแนะนำในฐานะผู้ที่เก่งที่สุดแสดงให้เห็นถึงความชำนาญอย่างแท้จริงครับ

นอกจากนี้ ให้ดูว่าแพทย์ท่านนั้นมีความชำนาญพิเศษด้านศัลยกรรมรอบดวงตาหรือไม่ ลองสอบถามถึงเคสที่เคยทำว่ามีลักษณะคล้ายกับปัญหาของเรามากน้อยแค่ไหน แพทย์ที่มีประสบการณ์สูงจะสามารถวิเคราะห์โครงสร้างตาที่ซับซ้อน, เข้าใจกลไกของกล้ามเนื้อตา, และเลือกใช้เทคนิคที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคลได้ ไม่ใช่การใช้เทคนิคเดียวกับคนไข้ทุกคนครับ

ความคิดเห็นจากผู้ป่วยก่อนหน้า

รีวิวและผลงานคือกระจกสะท้อนฝีมือของแพทย์ได้ดีที่สุด แต่เราต้องดูอย่างชาญฉลาดครับ อย่าดูแค่ภาพ Before & After ที่สวยงามเพียงอย่างเดียว แต่ให้มองหา ความสม่ำเสมอของผลงาน ในหลายๆ เคส ดูว่าสไตล์การทำตานั้นเป็นแบบที่เราชอบหรือไม่

อ่านรีวิวจากแหล่งที่น่าเชื่อถือหลายๆ แห่ง และมองหารีวิวที่พูดถึง “ประสบการณ์ตลอดเส้นทาง” ตั้งแต่การให้คำปรึกษา, บรรยากาศในวันผ่าตัด, ไปจนถึงการดูแลติดตามผลหลังผ่าตัด รีวิวที่มาจากคนไข้จริงมักจะให้รายละเอียดในจุดเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ ซึ่งบ่งบอกถึงความเป็นมืออาชีพและความใส่ใจของแพทย์และคลินิกได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากคุณสามารถหารีวิว “เคสแก้” ที่แพทย์ท่านนั้นเคยทำได้ นั่นคือเครื่องพิสูจน์ฝีมือที่แท้จริงครับ

 ขั้นตอนการทำศัลยกรรมตา

เพื่อให้คุณเห็นภาพรวมและเตรียมตัวได้อย่างถูกต้อง โดยทั่วไปขั้นตอนการทำศัลยกรรมตาจะประกอบด้วย 4 ระยะหลักๆ ครับ

ระยะที่ 1: การปรึกษา (Consultation) นี่คือขั้นตอนที่สำคัญที่สุด เป็นโอกาสที่คุณจะได้พูดคุยกับแพทย์ตัวต่อตัวเพื่อแจ้งความต้องการ, สอบถามข้อสงสัย, และให้แพทย์ประเมินโครงสร้างตาอย่างละเอียด แพทย์ที่ดีจะอธิบายถึงเทคนิคที่จะใช้, ผลลัพธ์ที่เป็นไปได้, และความเสี่ยงอย่างตรงไปตรงมา และที่สำคัญคือคุณต้องรู้สึก “คลิก” และไว้วางใจในตัวแพทย์

ระยะที่ 2: การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด (Preparation) หลังจากตัดสินใจแล้ว คุณจะได้รับคำแนะนำในการเตรียมตัว เช่น การงดยา, วิตามิน, และอาหารเสริมที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือดประมาณ 1-2 สัปดาห์ รวมถึงการงดสูบบุหรี่และแอลกอฮอล์ และการดูแลสุขภาพให้แข็งแรง

ระยะที่ 3: วันผ่าตัด (Surgery Day) ในวันผ่าตัด ศัลยแพทย์จะทำการวาดออกแบบชั้นตาอีกครั้ง จากนั้นจะฉีดยาชาเฉพาะที่บริเวณเปลือกตา ซึ่งอาจรู้สึกเจ็บเล็กน้อยในตอนแรก หลังจากนั้นคุณจะไม่รู้สึกเจ็บระหว่างการผ่าตัดเลย แพทย์จะใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมงในการผ่าตัดอย่างประณีต เมื่อเสร็จสิ้นคุณสามารถกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้ การเลือกหมอที่ทำตาที่ดีที่สุดสามารถทำให้กระบวนการเหล่านี้ราบรื่นและได้ผลลัพธ์ที่คุณต้องการครับ

ระยะที่ 4: การพักฟื้นและการดูแลตัวเอง (Recovery) ช่วง 1-2 สัปดาห์แรกเป็นช่วงที่ต้องดูแลแผลเป็นพิเศษ ทั้งการประคบเย็น, การทำความสะอาดแผล, และการรับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด จากนั้นจะเป็นช่วงนัดหมายเพื่อตัดไหมและติดตามผล ซึ่ชั้นตาจะค่อยๆ ยุบบวมและเข้าที่อย่างสวยงามในช่วง 1-3 เดือนครับ

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด ที่ หมอเกมส์ แนะนำ

1) แจ้งข้อมูลสุขภาพกับแพทย์อย่างละเอียด ได้แก่

  • ปัญหาสุขภาพ 
  • โรคร้ายแรง / โรคประจำตัว โดยเฉพาะ โรคเบาหวาน น้ำตาลไม่ควรเกิน 200 mg/dl ก่อนทำการผ่าตัด หรือ ถ้าต่ำได้กว่านั้นก็ยิ่งดี
  • ประวัติการผ่าตัดและการได้ยาระงับความรู้สึก ยิ่งถ้าใครแพ้ยาชา ต้องบอกไว้นะครับ สำคัญมากๆๆ
  • ฟันโยก ฟันปลอม และปัญหาเกี่ยวกับฟัน
  • การแพ้ยา / แพ้อาหาร ตรงนี้ ยิ่งสำคัญ ถ้าไม่รู้ว่าเคยกินยาตัวนี้ไหม ให้บอกว่า ไม่รู้นะครับ อย่าไปบอกว่า ไม่แพ้
  • อื่น ๆ

2) ในกรณีดมยาสลบ มีภาวะเสี่ยง หรือโรคประจำตัว จะมีการเตรียมพร้อมร่างกายสำหรับการผ่าตัดและดมยาสลบ ได้แก่

  • การเอกซเรย์ ( X- ray  )
  • การตรวจเลือด (  CBC )
  • การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ โดยเฉพาะคนอายุ 50 ปีขึ้นไปควรทำการตรวจถ้าต้องการดมยาสลบ
  • ถ้าท่านมีโรคประจำตัว ก่อนผ่าตัดควรทำการปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านอายุรกรรม หรือ แพทย์ผระจำตัวของท่านก่อนทำการผ่าตัด

3) งดใช้ยา ยาบำรุง สมุนไพรบางชนิดที่อาจมีผลกับการผ่าตัด ก่อนการผ่าตัดอย่างน้อย 7 วัน และนำยาประจำตัวและยาสมุนไพรต่าง ๆ ที่รับประทานมาโรงพยาบาลเพื่อแจ้งแพทย์ในวันผ่าตัด เช่น

  • ยาแก้ปวด กลุ่ม NSIADS
  • ยาแอสไพริน 
  • วิตามิน E
  • น้ำมันปลา ( Fish Oil ) 
  • สาหร่ายทะเล (omega 3)
  • เพราะ ยาหรือ อาหารเสริมดังกล่าวส่งผลต่อการไหลเวียนของเลือด เรียกง่ายๆ เลือดออกง่าย หยุดยาก

4) ควรงดสูบบุหรี่ ก่อนการผ่าตัดประมาณ 6 สัปดาห์ เพื่อป้องกันภาวะเนื้อเยื่อขาดเลือดมาเลี้ยง ทำให้เนื้อเยื่อตายได้ ถ้าสูบบุหรี่จัดต้องแจ้งแพทย์ให้ทราบทันที และควรงดสูบบุหรี่หลังผ่าตัดอย่างน้อย 2 สัปดาห์

5) หยุดดื่มสุรา ภายใน 24 ชั่วโมงก่อนผ่าตัด และควรหยุดดื่มสุราหลังผ่าตัดอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพราะ ถ้าหยุดแล้วท่านไปดื่มทันที รับรองเลิอดไหลเป็นน้ำแน่ๆ เพราะ alcohol มีส่วนกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต

6) อาบน้ำชำระร่างกายและสระผมให้สะอาด เพราะ อาจจะไม่ได้สระผม ไปเกือบ 1 สัปดาห์ เพราะ แผลที่เปลือกตาห้ามโดนน้ำ แต่ในคนไข้บางท่านที่ชอบดำน้ำและ มีแว่นตาดำน้ำใหญ่ๆ ที่กันน้ำได้ สามารถใส่แล้ว ทำการสระผมอย่างระมัดระวังได้นะครับ ุถ้าทนไม่ไหวจริงๆ ถ้าๆไม่ได้สระผม

7) ห้ามใช้เครื่องสำอางบริเวณหนังตาและผิวหนังรอบดวงตาหลังผ่าตัด 1 สัปดาห์

8) ในกรณีดมยาสลบ งดน้ำและอาหารก่อนผ่าตัดตามแพทย์สั่ง เพื่อป้องกันการสูดสำลักน้ำย่อยหรือเศษอาหารจากกระเพาะอาหารเข้าไปสู่ปอดระหว่างการได้รับยาระงับความรู้สึก

9) หลังผ่าตัด 1 สัปดาห์ควรใส่แว่นตากันแดด เพื่อความสบายตาในการมอง เนื่องจาก หลังผ่าตัด ตาจะเปิดกว้าง อาจมีความรู้สึกแสบตา เพราะ เห็นแสงจ้า นอกจากนี้ แว่นตากันแตด นอกจากกันแดดแล้ว ยังกันลม และ ฝุ่นด้วย

10) มีคนสนิทมาด้วย เพื่อพากลับบ้าน เพราะหลังผ่าตัดจะใช้สายตาไม่สะดวก ไม่ควรกลับบ้านตามลำพัง

ดูแลหลังผ่าตัด ที่ หมอเกมส์ มักแนะนำคือ

  1.  หลังผ่าตัดภายใน 24 – 72 ชั่วโมง นอนยกศีรษะสูง ประคบเย็นบริเวณดวงตาทั้งสองข้างเพื่อลดอาการบวม
  2. งดใช้สายตาในช่วงแรก ๆ เพราะการใช้สายตา อย่างการดูทีวีหรือการอ่านหนังสือ ต้องกะพริบตาและเปลือกตาเคลื่อนไหวตลอดเวลา ทำให้แผลอักเสบและหายช้า
  3. ใช้ไม้พันสำลีชุบน้ำเกลือ เช็ดคราบเลือด และสิ่งสกปรกออกอย่างเบามือ วันละ 2 – 3 ครั้ง เช็ดได้บ่อย ๆ เมื่อสกปรก
  4. หลังผ่าตัด 5 – 7 วัน แพทย์จะนัดติดตามอาการ แผลจะบวมอยู่ประมาณ 2 – 4 สัปดาห์ จากนั้นแผลจะหายเป็นปกติ ดูเป็นธรรมชาติประมาณ 1 เดือน
  5. หลังผ่าตัด 7 วัน ห้ามทานอาหารเผ็ดจัด เพราะจะทำให้เหงื่อออกมาก แผลเปียก ความดันเลือดสูงขึ้น อาจทำให้เลือดออกจากแผล
  6. หลังผ่าตัด 2 สัปดาห์ ต้องงดสุราและบุหรี่ เพราะมีผลกับการหายของแผลผ่าตัด งดการทำงานหรือการออกกำลังกายที่รุนแรง สามารถแต่งหน้าและแต่งแต้มดวงตาได้ตามปกติ
  7. หากมีอาการผิดปกติเกี่ยวกับแผล ได้แก่ ตาแดงมาก เคืองตา แผลแยก ต้องมาพบแพทย์ทันที
  8. ทานยาตามที่แพทย์สั่ง ถ้ามีอาการแพ้ยา เช่น คัน มีผื่นแดง คลื่นไส้ อาเจียน แน่นหน้าอก ให้หยุดทานทันทีและรีบมาพบแพทย์
  9. กรณีที่ใส่คอนแทคเลนส์ให้เปลี่ยนไปสวมแว่นตาในช่วงสัปดาห์แรกหลังผ่าตัด หรือจนกว่าจะหายบวม ห้ามดึงเปลือกตาเพื่อใส่คอนแทคเลนส์เด็ดขาด เพราะแผลผ่าตัดอาจแยกจากกันได้ หลังผ่าตัดครบ 14 วัน สามารถกลับมาใส่คอนแทคเลนส์ได้ตามปกติ
  10. ห้ามขยี้ตารุนแรงหลังผ่าตัด 2 เดือน
  11. หากมีอาการปวดแผล สามารถรับประทานยาแก้ปวดได้


การผ่าตัดต้องอาศัยความชำนาญและประสบการณ์ของศัลยแพทย์ตกแต่ง เป็นสำคัญ นอกจากนี้ การผ่าตัดตา ไม่สามารถทำหลายๆครั้งแบบ เสริมหน้าอก หรือ เสริมจมูกได้นะครับ พังแล้วพังเลย แก้ยากมากยิ่งถ้ากรีดแผลยาวๆมา ดังนั้นก่อนทำการผ่าตัด ควรปรึกษา ศัลยแพทย์ผู้ชำนาญการก่อน

โดยสามารถ

ปรึกษา การผ่าตัด ทำตาแผลเล็ก แผลมินิ เพิ่มเติมที่ line OA  ของคลินิก  หมอเกมส์ Grandmaster นะครับ

ถ้าคุณกำลังมองหาหมอทำตาที่มีฝีมือ ประณีต และให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาของท่าน  หมอเกมส์ คือตัวเลือกที่คุณไม่ควรพลาด ลองเข้าไปปรึกษาที่ GrandMasterClinic เพื่อรับคำแนะนำที่ถูกต้องและเหมาะสมกับตัวคุณเอง แล้วคุณจะรู้ว่าดวงตาที่สวยงามไม่ได้เป็นเพียงแค่ความฝันอีกต่อไป

บทสรุป

การค้นหา “หมอทำตาที่เก่งที่สุด” คือการเดินทางเพื่อค้นหาศัลยแพทย์ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนทั้ง 3 ด้าน: ฝีมือที่พิสูจน์ได้ จากวุฒิบัตรและผลงาน, ประสบการณ์ ในการวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาตาที่หลากหลาย, และที่สำคัญที่สุดคือ ความซื่อสัตย์ ที่จะให้คำปรึกษาอย่างตรงไปตรงมาและเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่คนไข้ หมอที่เก่งที่สุดไม่ใช่คนที่รับทำทุกเคส แต่คือคนที่เป็น “กระจก” สะท้อนความเป็นจริงและเป็น “เพื่อนคู่คิด” ที่ช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง เมื่อคุณใช้ข้อมูลจากคู่มือนี้เป็นแนวทาง คุณก็จะสามารถค้นพบศัลยแพทย์ที่ “ใช่” สำหรับคุณได้อย่างแน่นอนครับ

 

พร้อมที่จะเริ่มต้นการเดินทางค้นหาดวงตาคู่สวยในแบบของคุณแล้วหรือยัง? นัดหมายเพื่อเข้ามาปรึกษาและประเมินโครงสร้างตากับทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของเราได้แล้ววันนี้

คลิกเพื่ออ่าน : https://www.wongnai.com/beauty-services/eyes-double-eyelid-surgery-grandmaster-clinic