รวมเทคนิคทำตาสองชั้นบนโลกใบนี้ ? คุณต้องรู้ก่อนตัดสินใจ !!!
สวัสดีครับ หมอเกมส์นะครับ! โลกของการทำตาสองชั้นทุกวันนี้มีชื่อเรียกเทคนิคทำตาสองชั้น เยอะมากจนคนไข้หลายคนงงไปหมด ตั้งแต่เลเซอร์, เย็บจุด, กรีดสั้น, กรีดยาว, เทคนิคเกาหลี, เทคนิคซ่อนแผล… ตกลงมันคืออะไรกันแน่? แล้วตาแบบเราควรจะทำวิธีไหนดี? ถ้าคุณกำลังมองหาเทคนิคทำตาสองชั้น วันนี้หมอจะมาเป็นไกด์ให้เองครับ เราจะมา “ผ่า” ดูทีละเทคนิคเลยว่าจริงๆ แล้วเทคนิคทำตาสองชั้นแต่ละแบบคืออะไร เหมาะกับใคร และมีข้อดีข้อเสียต่างกันยังไง จะได้เลือกได้ถูก ไม่ต้องมานั่งเสียใจทีหลังครับ!
กลุ่มที่ 1: เทคนิค “กึ่งถาวร” หรือยังไม่อยากผ่าตัด
การใช้เลเซอร์ (Plexr Plasma)
- มันคืออะไร?: วิธีนี้จริงๆ แล้วไม่ใช่การ “สร้าง” ชั้นตา แต่เป็นการใช้พลังงานพลาสมาจี้ที่ผิวเปลือกตาเพื่อให้มัน “หดตัว” ครับ เหมือนการเอาเตารีดไปรีดผ้าให้เรียบขึ้นนั่นแหละ
- เหมาะกับใคร?: คนที่มีตาสองชั้นอยู่แล้ว แต่เริ่มมีหนังตาหย่อนลงมาปิดนิดๆ หน่อยๆ แต่ ต้องการ ออก Event แต่ต้องการชั้นตาใหญ่ เฉพาะ ช่วงเวลาที่ออก Event และกลัวการผ่าตัดสุดๆ
- ข้อจำกัด: ไม่สามารถสร้างชั้นตาให้คนที่ตาชั้นเดียวได้ และผลลัพธ์ก็ไม่ถาวรเท่าการผ่าตัดครับ อยู่ประมาณ 3-6 เดือน กลับไปเหมือนเดิม 555
กลุ่มที่ 2: กลุ่มเทคนิค “ผ่าตัด” สร้างชั้นตา
นี่คือกลุ่มหลักที่คนส่วนใหญ่ทำกันครับ ซึ่งแต่ละวิธีก็เหมือนเครื่องมือช่างคนละชิ้น เหมาะกับงานคนละประเภท เทคนิคทำตาสองชั้นนี้ต้องเลือกให้ดีครับ
1. เทคนิคทำตาสองชั้น แบบเย็บ 3 จุด (Suture Technique )
- มันคืออะไร?: เป็นการเจาะรูเล็กๆ 3 จุดแล้วร้อยไหมเข้าไปเพื่อสร้างรอยพับ ไม่มีแผลกรีด
- เหมาะกับใคร?: น้องๆ วัยรุ่นที่ตาชั้นเดียว, หนังตาบาง, และไขมันไม่เยอะ
- ข้อดี: แผลเล็กมาก แทบไม่เห็นรอย, บวมน้อย
- ข้อเสียที่ต้องรู้: ชั้นตาหลุดง่ายมาก! โดยเฉพาะในคนที่มีเปลือกตาหนาหรือไขมันเยอะ และไม่สามารถเอาไขมันหรือหนังตาส่วนเกินออกได้
2. เทคนิคทำตาสองชั้น แบบแผลเล็ก-แผลมินิ (Scarless Technique / Mini-Scar Technique)
- มันคืออะไร?: เป็นการพัฒนาไปอีกขั้น คือการกรีดแผลสั้นๆ ประมาณ 3-5 มม. เพื่อเข้าไปเย็บสร้างชั้นตา และสามารถเอาไขมันออกได้บางส่วน
- เหมาะกับใคร?: เหมาะกับตาทุกประเภท โดยเฉพาะคนที่ไม่อยากมีแผลเป็นที่เปลือกตา หรือ เป็น Keloid ง่าย ( ขึ้นกับความชำนาญแพทย์ )
- ข้อดี: แผลเล็ก, พักฟื้นเร็ว, เอาไขมันออกได้ดีกว่าแบบเย็บจุด
- ข้อเสีย: ยังไม่สามารถตัดหนังตาส่วนเกินออกได้ ไม่เหมาะกับคนที่มีหนังตาตกหรือหย่อนคล้อย
3. เทคนิคทำตาสองชั้น แบบกรีดยาว (Incisional Technique)
- มันคืออะไร?: นี่คือวิธี “มาตรฐานเก่า” (Old Traditionally Standard) ที่ศัลยแพทย์ใช้กันทั่วไป เป็นการกรีดแผลตามแนวชั้นตาที่ออกแบบไว้ ทำให้สามารถจัดการโครงสร้างภายในได้ทั้งหมด
- เหมาะกับใคร?: เหมาะกับคนสูงวัย หนังตาตกมากๆๆ โดยเฉพาะคนที่มีปัญหาซับซ้อน เช่น หนังตาตก, เปลือกตาหนา, ไขมันเยอะ
- ข้อดี: สามารถตัดหนังตาและไขมันส่วนเกินออกได้, ออกแบบรูปทรงชั้นตาแตกต่างไปกันกับฝีมือหมอแต่ละท่าน
- ข้อเสีย: บวมนานกว่าวิธีอื่น และมีรอยแผลเป็นตามแนวชั้นตา (แต่ถ้าแพทย์เย็บสวย แผลก็จะซ่อนตัวเนียนไปกับรอยพับครับ)
กลุ่มที่ 3: เทคนิค “เสริมพิเศษ” สำหรับเคสซับซ้อน
บางครั้งการสร้างชั้นตาอย่างเดียวก็ไม่พอครับ อาจต้องมีตัวช่วยเสริมเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาสมบูรณ์แบบ โดยเฉพาะกับเทคนิคทำตาสองชั้นสำหรับเคสซับซ้อน
3.1 การเปิดหัวตา (Epicanthoplasty)
- มันคืออะไร?: การผ่าตัดตกแต่งหนังตาที่ปิดบริเวณหัวตา ทำให้ตาดูยาวเรียวขึ้น เหมาะกับคนที่มีหัวตาปิดมากๆ เท่านั้น (คนไทยส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องทำ) นอกจากนี้ ยังเกิดแผลเป็นถาวร ที่ไม่จางหายไปตามกาลเวลา ยกเว้น !!! จะเป็น วิธีการเปิดหัวตาผ่านแผลผ่าตัดตาล่าง ซึ่งสามารถหลีกเลี่ยงแผลเป็นดังกล่าวได้ อย่างไรก็ตามในประเทศไทย มีผู้ผ่าตัด เทคนิคดังกล่าวน้อยมาก เพราะ ต้องระมัดระวังในการทำท่อน้ำตาบาดเจ็บในระหว่างผ่าตัดเปิดหัวตา
3.2 การย้ายไขมันแก้ไขเบ้าตาลึก (Fat Grafting / Transposition)
- มันคืออะไร?: สำหรับคนที่เบ้าตาลึก ตาโหล การทำตาสองชั้นอย่างเดียวจะยิ่งทำให้ตาลึกขึ้น โดยเฉพาะถ้าไปกรีดแผลยาว !!! ศัลยแพทย์จึงต้องเลือกวิธีการที่เหมาะสม สงวนเนื้อเยื่อเปลือกตา และทำการ “ย้าย” ไขมันจากส่วนอื่นของเปลือกตามาเติมในส่วนที่ลึกโบ๋ เพื่อให้ดวงตาดูอิ่มและอ่อนเยาว์ขึ้น ซึ่งสำหรับหมอ จะชอบใช้ Technique ย้ายไขมันแก้เบ้าตาลึก ผ่านแผลเล็ก
บทสรุป: ความสำคัญสุดอาจไม่ใช่ การผ่าตัด แต่ความสำคัญสุด คือ การหาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ตัวจริงเสียงจริง อย่าเลือกตาม การโฆษณาผ่านสื่อต่างๆ เพราะ เดี๋ยวนี้เชื่อถือได้ยาก แต่ให้เลือกตาม “ความประสบการณ์ และ ชื่อเสียง การบอกต่อ ของแพทย์ท่าน นั้นจะดีกว่า “
ยังสับสนอยู่ใช่ไหมว่าตาของคุณเหมาะกับเทคนิคไหน? ให้การประเมินจากศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นคำตอบที่ดีที่สุด นัดหมายเพื่อเข้ามาปรึกษาและออกแบบชั้นตาที่เหมาะสมกับคุณได้แล้ววันนี้