
สวัสดีครับ หมอเกมส์นะครับ 😊 วันนี้เราจะมาคุยกันถึงปัญหาโลกแตกที่ทำให้หน้าเราดูโทรม ดูมีอายุเกินจริง นั่นก็คือ “ถุงใต้ตา“ นั่นเองครับ หลายคนเข้ามาปรึกษาหมอด้วยความกังวลว่าทำไมใต้ตาบวมๆ ป่องๆ เหมือนคนอดนอน ทั้งที่ก็นอนเต็มอิ่มแล้ว ปัญหานี้บอกเลยว่ากระทบความมั่นใจสุดๆ ครับ ก่อนที่เราจะไปดูวิธี กำจัด ถุงใต้ตา เรามาทำความเข้าใจกันก่อนดีกว่าว่าเจ้าถุงป่องๆ ใต้ตาเราเนี่ย มันคืออะไรกันแน่?
คือลักษณะที่ไขมันบริเวณใต้เปลือกตาล่างปูดนูนออกมา ทำให้ใต้ตาดูบวมเป็นถุง ซึ่งแตกต่างจาก ใต้ตาดำ หรือ ขอบตาดำคล้ำ ที่เกิดจากเส้นเลือดหรือภูมิแพ้นะครับ บางคนเป็นตั้งแต่หนุ่มสาว บางคนก็เพิ่งมาเป็นตอนอายุมากขึ้น วันนี้หมอจะมาไขทุกข้อสงสัยให้เคลียร์ไปเลยครับ
ถุงใต้ตา เกิดจากอะไร?
ถุงใต้ตาที่เกิดตามอายุขัย / ถุงใต้ตาที่เกิดจากสภาพแวดล้อมและภูมิแพ้ และ ถุงใต้ตาตามพันธุกรรม ต่างกันอย่างไร?
หลายคนพอเจอปัญหา ถุงใต้ตา ก็รีบไปหาซื้ออายครีมแพงๆ มาทา แต่สุดท้ายก็พบว่า เปลืองตังค์เปล่า ๆ ฮ่าๆ มันไม่ได้ช่วยให้ถุงใต้ตายุบลงไปเลย นั่นเพราะเราอาจจะยังไม่เข้าใจสาเหตุที่แท้จริงของมันครับ หมอขอแบ่ง ถุงใต้ตา ง่ายๆ เป็น 3 แบบนะครับ
1. ถุงใต้ตา ที่เกิดตามอายุขัย
- สาเหตุ: ส่วนใหญ่มาจาก โครงสร้างร่างกายของเราเองครับ เรามีก้อนไขมันที่สะสมอยู่ใต้ตามาตั้งแต่เกิดอยู่แล้ว แต่ก้อนไขมันพวกนี้ ไม่ได้แสดงให้เห็นว่าเป็นปัญหาตั้งแต่เด็กจนถึงวัยสาว เนื่องจากไขมันใต้ตาพวกนี้อยู่ในผนังของถุงไขมันครับ ผนังของถุงมันมีความแข้งแรงในระดับนึง ที่สามารถปกป้องไขมันไม่ให้นุนออกมาได้ แต่พอเราอายุวัยเลยสาวไปแล้ว ก็เริ่มสังเกตเห้นถุงไขมันใต้ตามากขึ้นเรื่อยๆ เป็นเพราะผนังของถุงไขมันอ่อนแอลงเมื่ออายุมากขึ้นนั้นเองนะครับ
- วิธีแก้: ดังนั้นการทาด้วยครีมวิเศษใดๆ จึงมักไม่ได้ผล คนไข้หลายท่านเสียเงินค่าครีม รวมๆแล้วหลายกระปุกแพงกว่าค่าผ่าก็มีเยอะ เมื่อเรารู้กลไกการเกิด ถุงใต้ตาแล้ว วิธีที่ตรงจุดที่สุดคือการผ่าตัดโดยศัลยแพทย์ตกแต่งผู้เชี่ยวชาญครับ
2. ถุงใต้ตา ภูมิแพ้และสภาพแวดล้อม
- สาเหตุ: เกิดจาก พฤติกรรมการใช้ชีวิต ของเราล้วนๆ เลยครับ เช่น นอนน้อย ดื่มน้ำไม่พอ ขยี้ตาแรงๆ จากอาการภูมิแพ้ ก็ยิ่งทำให้ผนังของถุงไขมันอ่อนแรงลงเรื่อยๆ ดังนั้นในคนที่เป็นภูมิแพ้ หรือ ภูมิแพ้ขึ้นตา มักจะสังเกตพบว่าตัวเอง มีถุงไขมันไวกว่าเพื่อนในวัยเดียวกัน นอกจากนี้การดู series แบบไม่พักก็ยิ่งทำให้ถุงใต้ตามาก่อนวัยได้ง่ายๆ หรือในคนที่ทานอาหารเค็มจัด ความเค็มหรือปริมาณเกลือไซเดียม ที่มีความเข้มข้นสุงขึ้นก็ยิ่งดูดน้ำ เข้าไปเก็บไว้ที่เนื้อเยื่อมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะบริเวณใต้จะเห็นได้ชัดกว่าบริเวณอื่นของร่างกาย
- วิธีแก้: พระพุทธเจ้าบอกว่า เหตุเกิดที่ใดต้องแก้ที่นั้น ถ้าเกิดจากภูมิแพ้ ก็แก้จากภูมิแพ้ ถ้าเกิดจากพฤติกรรม สามารถทำได้ด้วยการปรับพฤติกรรม เช่น พักผ่อนให้พอ งดอาหารเค็มจัด หรือใช้วิธีประคบเย็นช่วยบ้าง
3. ถุงใต้ตา จากพันธุกรรม
สาเหตุ แน่นอนว่าขึ้นชื่อว่า พันธุกรรม นั้นเพราะ เราได้จากพ่อแม่มา โครงสร้างและเนื้อเยื่อก็เช่นกัน เคสแบบนี้ไม่ค่อยมีทางเลือกให้แก้เท่าไร นอกจากการผ่าตัด !!!
คำถามยอดฮิต: ถุงใต้ตา ในผู้สูงอายุ เกิดจากอะไร? แก้ไขยังไง?
นี่เป็นอีกเรื่องที่คนเข้าใจผิดกันเยอะมากครับ! หลายคนคิดว่าคนแก่มี ถุงใต้ตา ใหญ่เพราะไขมันมันเยอะขึ้น แต่ความจริงคือ…
ไม่ใช่เลยครับ!
ความจริงคือ ทุกคนมีก้อนไขมันใต้ตาอยู่แล้วตั้งแต่เกิด โดยมีแผ่นพังผืดแข็งแรง (Orbital Septum) คอยกั้นไว้เหมือนกำแพงครับ แต่พอเรา อายุมากขึ้น ผนังนี้มันก็หย่อนยานลง ทำให้ไขมันที่อยู่ด้านหลังมัน “ทะลัก” ปูดออกมาให้เราเห็นเป็น ถุงใต้ตา นั่นเอง
ดังนั้น การผ่าตัดลดถุงใต้ตา ในผู้สูงอายุ ที่ถูกต้อง จึงไม่ใช่แค่การเอาไขมันออกไปดื้อๆ แต่เป็นการ “ซ่อมกำแพง” คือการเย็บกระชับผนังกั้นไขมันให้แข็งแรงขึ้น พร้อมกับ “จัดเรียงไขมัน” กลับเข้าที่เดิม และตัดหนังตาส่วนเกินที่หย่อนคล้อยออกไปครับ
วิธีรักษาและกำจัดถุงใต้ตา มีอะไรบ้าง?
เมื่อเข้าใจสาเหตุแล้ว เรามาดูวิธีรักษากันดีกว่าครับ ซึ่งหมอจะเลือกเทคนิคที่เหมาะสมกับปัญหาของแต่ละคนมากที่สุด
การผ่าตัดกำจัดถุงใต้ตา
นี่คือวิธีที่เห็นผลชัดเจนและถาวรที่สุดครับ ที่ Grandmaster Clinic หมอมี 2 เทคนิคหลักๆ คือ
- ผ่าตัดถุงใต้ตาแผลใน (ไร้แผลนอก) – ซ่อนแผลจากด้านใน โดยการลงแผลผ่าเยื่อบุตา- คืออะไร: หมอจะเปิดแผลขนาด 1 CM ที่ด้านในเยื่อบุตาล่าง ( Conjunctiva ) แล้วเข้าไป นำไขมันถุงใต้ตา ส่วนเกินออกอย่างพอเหมาะ จากนั้นเย็บซ่อมผนังถุง สร้างความแข้งแรงให้ผนังถุงไขมัน เพื่อป้องกันการเกิดเป็นซ้ำเร็วในอนาคต การทำผ่าตัดแบบนี้ แผลจะหายไว ไม่ต้องตัดไหม เพราะเป็นการเย็บแบบซ่อนปมไหม
- เหมาะกับใคร: คนที่ ผิวหนังใต้ตายังไม่หย่อนคล้อยมาก และขนาด ถุงใต้ตา ไม่ใหญ่จนเกิดไป ( ทางที่ดีความเข้ามาที่คลินิกเพื่อประเมินกับแพทย์ก่อนว่า เราเหมาะผ่าตัดวิธีไหน …หมอบางท่านตัดกันที่อายุ แต่สำหรับหมอ อายุเป็นเพียงตัวเลข!!! เดี๋ยวนี้บางคนอายุ50 กว่า แต่ผิวตึงอย่างกับคนอายุ 30 -40 ก็มีเยอะ เพราะเค้าดูแลตัวเองมาตลอด
- ข้อดี: ไม่มีแผลเป็นด้านนอกเลย การบวมช่ำขึ้นอยู่แต่ละบุคคลนะครับ ผ่าตัดแผลใน 
 
2.ผ่าตัด ถุงใต้ตา แผลนอก – เก็บทั้งไขมันและหนังส่วนเกิน
- คืออะไร: หมอจะกรีดแผลชิดขอบขนตาล่าง เพื่อเข้าไป นำไขมันออก จัดเรียงไขมัน และ ตัดหนังตาส่วนเกิน ที่หย่อนคล้อยออกไปพร้อมกัน จากนั้นเย็บแผลอย่างประณีต
- เหมาะกับใคร: ผู้ที่ ผิวใต้ตาย่น และ หย่อนคล้อยมาก มีริ้วรอยเยอะ ต้องการความตึงกระชับ
- ข้อดี: แก้ปัญหาได้ครบทั้ง ถุงใต้ตา และความเหี่ยวย่น
- หมายเหตุ ++++ ย้ำเลยว่า การตัดผิวหนังออกนั้น ไม่สามารถตัดมากเกิดไป หรือ ตัดเพื่อดึงให้ตึงมากๆ เพราะ ถ้าตัดมากเกิน หรือ ตึงมากเกิน จะเกิดปัญหา ตาล่างแหก !!!!! ดังนั้นขอย้ำว่า การตัดผิวหนังออก ตัดตามความเหมาะสม รอยย่นหย่อนเหี่ยวลดลงแน่นอน แต่ ถ้าไม่อยากตาแหก อย่าไปตัดเยอะนะครับ แนะนำด้วยความปรารถนาดี
 

วิธีอื่นๆ ในการ ผ่าตัดลดถุงใต้ตา
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา: การเติมฟิลเลอร์จะช่วยพรางให้ใต้ตาดูเรียบเนียนขึ้น แต่เป็นการซ่อนปัญหาไว้ใต้พรมแบบเนียนๆ 5555 เพราะไม่ได้แก้ปัญหาที่ต้นเหตุที่เกิดจากการอ่อนแอลงของผนังของถุงไขมัน แต่การฉีด filler เป็นการเติมเต็มพื้นที่ใบหน้าส่วนที่อยู่ต่ำกว่าถุงใต้ตา ให้นูนสุงเท่ากับความนุนของถุงใต้ตา เพื่อให้ดูเสมือนถุงหายไป แต่เมื่อเวลาผ่านไป filler เริ่มสลายตัว ถุงก็จะเห็นชัดขึ้นมาใหม่ หรือ ถ้าผนังของถุงที่ยังไม่ถูกทำให้แข็งแรงขึ้น ยังอ่อนแอลงเมื่อเวลาผ่านไป ถุงก็กลับมาเด่นชัดอีก หลายท่านอาจบอกว่า งั้นก็กลับไปฉีดใหม่ ซิ เติมไปเรื่อยๆ 5555 ก็ได้ครับ แต่ขอบอกไว้อย่างนึงว่า ทำครั้งแรกๆ มันดูเนียนดูเนียบดูเรียบ แต่ทำต่อไปเรื่อยๆ ไม่มีใครรับประกันนะครับ
- วิธีอื่นในการลดถุงใต้ตาโดยไม่ต้องผ่าตัดมีทั้งวิธีดูแลตัวเองและหัตถการทางการแพทย์ เช่น ปรับพฤติกรรมการนอนหลับและดื่มน้ำให้เพียงพอ, ประคบเย็นที่ดวงตา, ทาครีมบำรุงรอบดวงตา, ฉีดฟิลเลอร์หรือใช้เลเซอร์ยกกระชับผิวรอบดวงตา การเลือกวิธีที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของปัญหาถุงใต้ตา.วิธีดูแลตัวเอง- ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต:- พักผ่อนให้เพียงพอ: การนอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงช่วยลดอาการบวม.
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ: ดื่มน้ำประมาณ 1-1.5 ลิตรต่อวันเพื่อช่วยขับโซเดียมออกจากร่างกาย และลดอาการบวมน้ำ.
- ลดอาหารรสเค็มและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์: อาหารรสจัดทำให้เกิดอาการบวมน้ำได้.
- หลีกเลี่ยงการขยี้ตา: การขยี้ตาแรง ๆ อาจทำให้เกิดการระคายเคืองและบวม.
 
- การประคบ:- ประคบเย็น: ใช้น้ำแข็ง ผ้าเย็น หรือช้อนเย็นประคบบริเวณรอบดวงตาประมาณ 10 นาที เพื่อลดอาการบวม.
- ประคบถุงชา: ชาคาเฟอีนในถุงชาที่แช่เย็นสามารถช่วยลดอาการบวมบริเวณใต้ตาได้.
- ประคบน้ำเกลือ: ใช้สำลีชุบน้ำเกลืออุ่นๆ ประคบเบาๆ เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนเลือดและลดอาการบวมได้.
 
- การบำรุงผิว:- ใช้ครีมบำรุงรอบดวงตา: ครีมที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์และสารบำรุงอื่นๆ สามารถช่วยให้ผิวบริเวณใต้ตาดูดีขึ้นได้.
 
 
- ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต:
เตรียมตัวก่อน-หลังผ่าตัดถุงใต้ตาต้องทำอย่างไร?
เพื่อให้การผ่าตัดปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด การเตรียมตัวสำคัญมากครับ
- ก่อนผ่าตัด: งดวิตามินและอาหารเสริมที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด (เช่น วิตามิน E, น้ำมันปลา) อย่างน้อย 2 สัปดาห์, งดบุหรี่และแอลกอฮอล์, พักผ่อนให้เพียงพอ
- หลังผ่าตัด: ประคบเย็นบ่อยๆ ในช่วง 48 ชั่วโมงแรก, นอนหมอนสูง, หลีกเลี่ยงการก้มหน้าหรือยกของหนัก, ทานยาและมาตรวจตามที่แพทย์นัดอย่างเคร่งครัด
ภาวะแทรกซ้อนที่ต้องระวัง คือ เปลือกตาล่างแหก (Ectropion) ซึ่งมักเกิดจากการตัดหนังตาออกมากเกินไป ที่ Grandmaster Clinic หมอให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก โดยจะทำการประเมินและอาจต้อง เย็บกระชับเอ็นตาล่าง ร่วมด้วยเพื่อป้องกันปัญหานี้ครับ
หากใครกำลังกังวลกับปัญหา ถุงใต้ตา ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน อย่าเพิ่งท้อใจนะครับ ที่ Grandmaster Clinic หมอและทีมงานพร้อมให้คำปรึกษา สามารถทักเข้ามา หรือนัดคิวเข้ามาให้หมอประเมินและวางแผนการรักษาที่เหมาะกับคุณโดยเฉพาะได้เลยครับ ยินดีให้คำแนะนำครับ 😊
ติดต่อเพิ่มเติมที่ line official GrandmasterClinic
……
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด ที่ หมอเกมส์ แนะนำ
1) แจ้งข้อมูลสุขภาพกับแพทย์อย่างละเอียด ได้แก่
- ปัญหาสุขภาพ
- โรคร้ายแรง / โรคประจำตัว โดยเฉพาะ โรคเบาหวาน น้ำตาลไม่ควรเกิน 200 mg/dl ก่อนทำการผ่าตัด หรือ ถ้าต่ำได้กว่านั้นก็ยิ่งดี
- ประวัติการผ่าตัดและการได้ยาระงับความรู้สึก ยิ่งถ้าใครแพ้ยาชา ต้องบอกไว้นะครับ สำคัญมากๆๆ
- ฟันโยก ฟันปลอม และปัญหาเกี่ยวกับฟัน
- การแพ้ยา / แพ้อาหาร ตรงนี้ ยิ่งสำคัญ ถ้าไม่รู้ว่าเคยกินยาตัวนี้ไหม ให้บอกว่า ไม่รู้นะครับ อย่าไปบอกว่า ไม่แพ้
- อื่น ๆ
2) ในกรณีดมยาสลบ มีภาวะเสี่ยง หรือโรคประจำตัว จะมีการเตรียมพร้อมร่างกายสำหรับการผ่าตัดและดมยาสลบ ได้แก่
- การเอกซเรย์ ( X- ray )
- การตรวจเลือด ( CBC )
- การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ โดยเฉพาะคนอายุ 50 ปีขึ้นไปควรทำการตรวจถ้าต้องการดมยาสลบ
- ถ้าท่านมีโรคประจำตัว ก่อนผ่าตัดควรทำการปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านอายุรกรรม หรือ แพทย์ผระจำตัวของท่านก่อนทำการผ่าตัด
3) งดใช้ยา ยาบำรุง สมุนไพรบางชนิดที่อาจมีผลกับการผ่าตัด ก่อนการผ่าตัดอย่างน้อย 7 วัน และนำยาประจำตัวและยาสมุนไพรต่าง ๆ ที่รับประทานมาโรงพยาบาลเพื่อแจ้งแพทย์ในวันผ่าตัด เช่น
- ยาแก้ปวด กลุ่ม NSIADS
- ยาแอสไพริน
- วิตามิน E
- น้ำมันปลา ( Fish Oil )
- สาหร่ายทะเล (omega 3)
- เพราะ ยาหรือ อาหารเสริมดังกล่าวส่งผลต่อการไหลเวียนของเลือด เรียกง่ายๆ เลือดออกง่าย หยุดยาก
4) ควรงดสูบบุหรี่ ก่อนการผ่าตัดประมาณ 6 สัปดาห์ เพื่อป้องกันภาวะเนื้อเยื่อขาดเลือดมาเลี้ยง ทำให้เนื้อเยื่อตายได้ ถ้าสูบบุหรี่จัดต้องแจ้งแพทย์ให้ทราบทันที และควรงดสูบบุหรี่หลังผ่าตัดอย่างน้อย 2 สัปดาห์
5) หยุดดื่มสุรา ภายใน 24 ชั่วโมงก่อนผ่าตัด และควรหยุดดื่มสุราหลังผ่าตัดอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพราะ ถ้าหยุดแล้วท่านไปดื่มทันที รับรองเลิอดไหลเป็นน้ำแน่ๆ เพราะ alcohol มีส่วนกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต
6) อาบน้ำชำระร่างกายและสระผมให้สะอาด เพราะ อาจจะไม่ได้สระผม ไปเกือบ 1 สัปดาห์ เพราะ แผลที่เปลือกตาห้ามโดนน้ำ แต่ในคนไข้บางท่านที่ชอบดำน้ำและ มีแว่นตาดำน้ำใหญ่ๆ ที่กันน้ำได้ สามารถใส่แล้ว ทำการสระผมอย่างระมัดระวังได้นะครับ ุถ้าทนไม่ไหวจริงๆ ถ้าๆไม่ได้สระผม
7) ห้ามใช้เครื่องสำอางบริเวณหนังตาและผิวหนังรอบดวงตาหลังผ่าตัด 1 สัปดาห์
8) ในกรณีดมยาสลบ งดน้ำและอาหารก่อนผ่าตัดตามแพทย์สั่ง เพื่อป้องกันการสูดสำลักน้ำย่อยหรือเศษอาหารจากกระเพาะอาหารเข้าไปสู่ปอดระหว่างการได้รับยาระงับความรู้สึก
9) หลังผ่าตัด 1 สัปดาห์ควรใส่แว่นตากันแดด เพื่อความสบายตาในการมอง เนื่องจาก หลังผ่าตัด ตาจะเปิดกว้าง อาจมีความรู้สึกแสบตา เพราะ เห็นแสงจ้า นอกจากนี้ แว่นตากันแตด นอกจากกันแดดแล้ว ยังกันลม และ ฝุ่นด้วย
10) มีคนสนิทมาด้วย เพื่อพากลับบ้าน เพราะหลังผ่าตัดจะใช้สายตาไม่สะดวก ไม่ควรกลับบ้านตามลำพัง
ดูแลหลังผ่าตัด ที่ หมอเกมส์ มักแนะนำคือ
- หลังผ่าตัดภายใน 24 – 72 ชั่วโมง นอนยกศีรษะสูง ประคบเย็นบริเวณดวงตาทั้งสองข้างเพื่อลดอาการบวม
- งดใช้สายตาในช่วงแรก ๆ เพราะการใช้สายตา อย่างการดูทีวีหรือการอ่านหนังสือ ต้องกะพริบตาและเปลือกตาเคลื่อนไหวตลอดเวลา ทำให้แผลอักเสบและหายช้า
- ใช้ไม้พันสำลีชุบน้ำเกลือ เช็ดคราบเลือด และสิ่งสกปรกออกอย่างเบามือ วันละ 2 – 3 ครั้ง เช็ดได้บ่อย ๆ เมื่อสกปรก
- หลังผ่าตัด 5 – 7 วัน แพทย์จะนัดติดตามอาการ แผลจะบวมอยู่ประมาณ 2 – 4 สัปดาห์ จากนั้นแผลจะหายเป็นปกติ ดูเป็นธรรมชาติประมาณ 1 เดือน
- หลังผ่าตัด 7 วัน ห้ามทานอาหารเผ็ดจัด เพราะจะทำให้เหงื่อออกมาก แผลเปียก ความดันเลือดสูงขึ้น อาจทำให้เลือดออกจากแผล
- หลังผ่าตัด 2 สัปดาห์ ต้องงดสุราและบุหรี่ เพราะมีผลกับการหายของแผลผ่าตัด งดการทำงานหรือการออกกำลังกายที่รุนแรง สามารถแต่งหน้าและแต่งแต้มดวงตาได้ตามปกติ
- หากมีอาการผิดปกติเกี่ยวกับแผล ได้แก่ ตาแดงมาก เคืองตา แผลแยก ต้องมาพบแพทย์ทันที
- ทานยาตามที่แพทย์สั่ง ถ้ามีอาการแพ้ยา เช่น คัน มีผื่นแดง คลื่นไส้ อาเจียน แน่นหน้าอก ให้หยุดทานทันทีและรีบมาพบแพทย์
- กรณีที่ใส่คอนแทคเลนส์ให้เปลี่ยนไปสวมแว่นตาในช่วงสัปดาห์แรกหลังผ่าตัด หรือจนกว่าจะหายบวม ห้ามดึงเปลือกตาเพื่อใส่คอนแทคเลนส์เด็ดขาด เพราะแผลผ่าตัดอาจแยกจากกันได้ หลังผ่าตัดครบ 14 วัน สามารถกลับมาใส่คอนแทคเลนส์ได้ตามปกติ
- ห้ามขยี้ตารุนแรงหลังผ่าตัด 2 เดือน
- หากมีอาการปวดแผล สามารถรับประทานยาแก้ปวดได้
การผ่าตัดต้องอาศัยความชำนาญและประสบการณ์ของศัลยแพทย์ตกแต่ง เป็นสำคัญ นอกจากนี้ การผ่าตัดตา ไม่สามารถทำหลายๆครั้งแบบ เสริมหน้าอก หรือ เสริมจมูกได้นะครับ พังแล้วพังเลย แก้ยากมากยิ่งถ้ากรีดแผลยาวๆมา ดังนั้นก่อนทำการผ่าตัด ควรปรึกษา ศัลยแพทย์ผู้ชำนาญการก่อน
โดยสามารถ
ปรึกษา การผ่าตัด ทำตาแผลเล็ก แผลมินิ เพิ่มเติมที่ line OA ของคลินิก หมอเกมส์ Grandmaster นะครับ
ถ้าคุณกำลังมองหาหมอทำตาที่มีฝีมือ ประณีต และให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาของท่าน หมอเกมส์ คือตัวเลือกที่คุณไม่ควรพลาด ลองเข้าไปปรึกษาที่ GrandMasterClinic เพื่อรับคำแนะนำที่ถูกต้องและเหมาะสมกับตัวคุณเอง แล้วคุณจะรู้ว่าดวงตาที่สวยงามไม่ได้เป็นเพียงแค่ความฝันอีกต่อไป
 
				
