หนังตาตกสามชั้น ตาสามชั้น คืออะไร? สาเหตุและวิธีการแก้ไข

หนังตาสามชั้น

ดวงตาถูกขนานนามว่าเป็น “หน้าต่างของหัวใจ” และยังเป็นจุดแรกที่สะท้อนอารมณ์ ความมั่นใจ และอายุได้อย่างชัดเจน เมื่อเกิดภาวะ ตา 3 ชั้น หรือ หนังตาตกสามชั้น ดวงตาที่เคยดูสดใสกลับดูอ่อนล้า ไม่เท่ากัน และแต่งหน้าได้ยากขึ้น หลายคนอาจรู้สึกไม่มั่นใจ โดยเฉพาะเมื่อรอยพับของเปลือกตาเริ่มซ้อนกันจนดูผิดรูป บทความนี้จะอธิบายถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดตา 3 ชั้น พร้อมวิธีการแก้ไขทั้งแบบธรรมชาติและทางการแพทย์ เพื่อให้คุณเข้าใจและเลือกแนวทางที่เหมาะสมกับตัวเอง


ตาสามชั้น / หนังตาสามชั้น คืออะไร?

ตาสามชั้นหนังตาสามชั้น หรือที่บางคนเรียกว่า “หนังสามชั้น /ชั้นตาสามชั้น” คือภาวะที่เปลือกตามีรอยพับมากกว่าสองชั้น โดยปกติแล้วคนทั่วไปจะมีรอยพับเพียงชั้นเดียวหรือสองชั้น แต่เมื่อหนังตาเกิดการหย่อนคล้อยจากอายุหรือปัจจัยอื่น รอยพับใหม่จะเกิดขึ้นซ้อนรอยเดิม กลายเป็น “สามชั้น” หรือบางครั้งอาจเกิดเพียงข้างเดียว ทำให้ชั้นตาไม่เท่ากัน ดวงตาดูเศร้า หรือเล็กลง ซึ่งไม่เพียงกระทบความงาม แต่ในบางรายยังรบกวนการมองเห็น

หนังตาตกสามชั้น


สาเหตุของตา 3 ชั้น / หนังตาตกสามชั้น

1. อายุที่เพิ่มขึ้นและแรงโน้มถ่วงของผิวหนัง

เมื่ออายุมากขึ้น ผิวรอบดวงตาซึ่งบางและบอบบางที่สุดในร่างกายจะสูญเสียคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้หนังตาหย่อนลงตามแรงโน้มถ่วง เกิดรอยพับใหม่ที่ไม่ต้องการ ส่งผลให้เห็นเป็นตาสามชั้น

2. การเคลื่อนตัวของไขมันเปลือกตา

ไขมันที่อยู่ใต้ผิวหนังชั้นเปลือกตาจะค่อยๆ เคลื่อนตัวลงต่ำ โดยเฉพาะในผู้ที่นอนดึก พักผ่อนน้อย หรือมีพฤติกรรมขยี้ตาบ่อย ไขมันเหล่านี้จะกองสะสมเป็นถุงเล็กๆ ทำให้หนังตาโป่งและพับซ้อนมากขึ้น

3. การใช้สายตาหนักหรือขยี้ตาบ่อย

พฤติกรรมเช่น ใช้คอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์เป็นเวลานาน ขยี้ตาแรง หรือใส่คอนแทคเลนส์ทุกวัน ล้วนเพิ่มแรงกดบนเปลือกตา ทำให้กล้ามเนื้อและผิวหนังอ่อนแรงลง

4. ผลข้างเคียงจากการทำตาสองชั้นในอดีต

ในบางกรณี ผู้ที่เคยทำตาสองชั้นมาแล้วอาจเกิดพังผืดหรือการเย็บที่คลายตัว ทำให้ชั้นตาไม่คงที่และซ้อนกันจนกลายเป็น “ตา 3 ชั้น” โดยเฉพาะหากเทคนิคหรือการดูแลหลังผ่าตัดไม่ถูกต้อง

5. กรรมพันธุ์และโครงสร้างผิวแต่กำเนิด

บางคนมีเปลือกตาบางหรือหนังตาหย่อนโดยธรรมชาติ แม้อายุยังน้อยก็สามารถเกิดตา 3 ชั้นได้ง่ายเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงของน้ำหนักหรือสุขภาพผิว


อาการที่ควรสังเกต

  • รอยพับบนเปลือกตาไม่เท่ากันระหว่างสองข้าง

  • หนังตาตกลงมาปิดขอบตาบางส่วน

  • ดวงตาดูเล็กหรือเศร้า

  • แต่งตาแล้วไม่ติดเหมือนเดิม

  • รู้สึกหนักตาเมื่อต้องลืมตานาน

หากมีอาการเหล่านี้ร่วมกับอาการบวมและระคายเคือง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง


วิธีการแก้ไขตา 3 ชั้น / หนังตาตกสามชั้น

1. การดูแลแบบไม่ผ่าตัด (Non-Surgical Treatment)

✅ ปรับพฤติกรรมประจำวัน

หลีกเลี่ยงการขยี้ตาแรง นอนให้เพียงพอ และดื่มน้ำอย่างเหมาะสมเพื่อป้องกันการบวมน้ำรอบดวงตา

✅ ใช้ครีมบำรุงรอบดวงตา

เลือกครีมที่มีส่วนผสมของ Peptide หรือ Hyaluronic Acid เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่น ลดความหย่อนคล้อย และช่วยให้หนังตาดูตึงกระชับขึ้น

✅ ทำเลเซอร์กระชับหนังตา

เทคนิคเช่น Ultherapy, Thermage Eye หรือ Fractional RF ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและยกกระชับผิวบริเวณเปลือกตา เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการเล็กน้อยถึงปานกลาง


2. การแก้ไขด้วยศัลยกรรม (Surgical Treatment)

หากมีตา 3 ชั้นที่ชัดเจน หนังตาหย่อนมาก หรือเคยทำศัลยกรรมมาก่อน ควรพิจารณาวิธีผ่าตัดแก้ไขโดยศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทาง ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาที่ต้นเหตุได้ชัดเจนกว่า

🔹 ผ่าตัดตัดหนังตาส่วนเกินออก

เป็นวิธีที่นิยมที่สุดสำหรับคนที่มีหนังตาเกินหรือหย่อนมาก โดยแพทย์จะตัดส่วนที่เกินออก และออกแบบรอยพับชั้นตาใหม่ให้เหมาะกับรูปหน้า

🔹 เอาไขมันส่วนเกินออกจากเปลือกตา

ช่วยลดความโป่งหรือบวม ทำให้ชั้นตาเรียบเนียนขึ้น เหมาะกับผู้ที่มี “ไขมันสะสม” ใต้เปลือกตา

🔹 การเย็บสร้างชั้นตาใหม่ (Re-blepharoplasty)

แพทย์จะปรับโครงสร้างเปลือกตาใหม่ทั้งหมด เพื่อให้ได้รอยพับที่เหมาะสมกับใบหน้าและคิ้ว ช่วยให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติและคงทน


หนังตาตกสามชั้น

การดูแลหลังแก้หนังตาสามชั้น

  • ประคบเย็นในช่วง 48 ชั่วโมงแรกเพื่อช่วยลดบวม

  • หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าและขยี้ตาเป็นเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์

  • นอนศีรษะสูงขณะนอนเพื่อป้องกันอาการบวมซ้ำ

  • ทายาปฏิชีวนะและยาลดบวมตามแพทย์สั่ง

  • ตรวจติดตามตามนัดเพื่อประเมินผลการฟื้นตัว

ภายใน 1–2 สัปดาห์ อาการบวมและรอยช้ำจะค่อยๆ ลดลง และสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ


วิธีป้องกันไม่ให้เกิดตา 3 ชั้นซ้ำอีก

  1. นอนหลับให้เพียงพออย่างน้อย 6–8 ชั่วโมงต่อวัน

  2. ทาครีมบำรุงรอบดวงตาเป็นประจำเพื่อคงความยืดหยุ่น

  3. หลีกเลี่ยงการใช้สายตานานต่อเนื่องโดยไม่พัก

  4. เช็ดเครื่องสำอางรอบตาเบาๆ ด้วยผลิตภัณฑ์สูตรอ่อนโยน

  5. รักษาน้ำหนักตัวให้คงที่ เพราะการลดน้ำหนักเร็วอาจทำให้ผิวหนังหย่อน


FAQ (เพิ่มส่วนคำถามที่พบบ่อยท้ายบทความ)

Q1: ตา 3 ชั้น ต่างจากหนังตาตกทั่วไปอย่างไร?
A: ตา 3 ชั้นคือรอยพับหลายชั้นไม่สม่ำเสมอ ส่วนหนังตาตกคือผิวหนังหย่อนลงบดบังตาดำ เมื่อเกิดร่วมกันจะยิ่งทำให้ชั้นตาซ้อนและตาดูเล็กลง

Q2: ตา 3 ชั้นแก้ได้โดยไม่ผ่าตัดไหม?
A: กรณีอ่อน–ปานกลาง อาจดีขึ้นด้วยการปรับพฤติกรรม ครีมบำรุง และพลังงานยกกระชับ (Ultherapy/Thermage) แต่กรณีโครงสร้างหย่อนมาก มักต้องผ่าตัดแก้

Q3: ใครเหมาะกับการผ่าตัดแก้ตา 3 ชั้น?
A: ผู้ที่มีหนังตาเกิน ไขมันเปลือกตาโป่ง พังผืดจากการทำตาเดิม หรือชั้นตาไม่เท่ากันชัดเจน ควรประเมินโดยศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทาง

Q4: พักฟื้นนานแค่ไหนหลังผ่าตัดแก้ตา 3 ชั้น?
A: โดยมากบวมช้ำลดลงภายใน 7–14 วัน และเข้าที่ต่อเนื่อง 1–3 เดือน ขึ้นกับเทคนิคและการดูแลหลังทำ

Q5: ใช้สติ๊กเกอร์ทำตาสองชั้นทุกวัน เสี่ยงตา 3 ชั้นไหม?
A: การดึง–ติดซ้ำๆ อาจทำให้ผิวยืดและเกิดพับซ้อนง่าย ควรใช้เป็นครั้งคราวและเช็ดทำความสะอาดอย่างอ่อนโยน

Q6: หลังแก้ตา 3 ชั้น สามารถแต่งหน้าได้เมื่อไร?
A: โดยทั่วไป 7–10 วันหรือตามแพทย์สั่ง เริ่มจากเครื่องสำอางสูตรอ่อนโยนและล้างออกเบามือ

Q7: จะแน่ใจได้อย่างไรว่าแก้แล้วไม่กลับมาเป็นอีก?
A: ออกแบบชั้นตาตามกายวิภาคจริง แก้ปัจจัยต้นเหตุ (หนังตาเกิน/ไขมัน/พังผืด) และดูแลพฤติกรรมหลังทำ ลดโอกาสกลับมาเป็นซ้ำ

การผ่าตัดและการดูแลตัวเอง 

การผ่าตัดแก้ไขกล้ามเนื้อตาเป็นการผ่าตัดที่ละเอียดอ่อน ใช้ยาชาเฉพาะที่ ศัลยแพทย์จะทำการประเมินระดับความรุนแรงและออกแบบการผ่าตัดให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล หลังการผ่าตัดอาจมีอาการบวมได้ในช่วงแรก ซึ่งเป็นเรื่องปกติและจะค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ การปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด แก้ไขภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง

1) แจ้งข้อมูลสุขภาพกับแพทย์อย่างละเอียด ได้แก่

  • ปัญหาสุขภาพ 
  • โรคร้ายแรง / โรคประจำตัว โดยเฉพาะ โรคเบาหวาน น้ำตาลไม่ควรเกิน 200 mg/dl ก่อนทำการผ่าตัด หรือ ถ้าต่ำได้กว่านั้นก็ยิ่งดี
  • ประวัติการผ่าตัดและการได้ยาระงับความรู้สึก ยิ่งถ้าใครแพ้ยาชา ต้องบอกไว้นะครับ สำคัญมากๆๆ
  • ฟันโยก ฟันปลอม และปัญหาเกี่ยวกับฟัน
  • การแพ้ยา / แพ้อาหาร ตรงนี้ ยิ่งสำคัญ ถ้าไม่รู้ว่าเคยกินยาตัวนี้ไหม ให้บอกว่า ไม่รู้นะครับ อย่าไปบอกว่า ไม่แพ้
  • อื่น ๆ

2) ในกรณีดมยาสลบ มีภาวะเสี่ยง หรือโรคประจำตัว จะมีการเตรียมพร้อมร่างกายสำหรับการผ่าตัดและดมยาสลบ ได้แก่

  • การเอกซเรย์ ( X- ray  )
  • การตรวจเลือด (  CBC )
  • การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ โดยเฉพาะคนอายุ 50 ปีขึ้นไปควรทำการตรวจถ้าต้องการดมยาสลบ
  • ถ้าท่านมีโรคประจำตัว ก่อนผ่าตัดควรทำการปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านอายุรกรรม หรือ แพทย์ผระจำตัวของท่านก่อนทำการผ่าตัด

3) งดใช้ยา ยาบำรุง สมุนไพรบางชนิดที่อาจมีผลกับการผ่าตัด ก่อนการผ่าตัดอย่างน้อย 7 วัน และนำยาประจำตัวและยาสมุนไพรต่าง ๆ ที่รับประทานมาโรงพยาบาลเพื่อแจ้งแพทย์ในวันผ่าตัด เช่น

  • ยาแก้ปวด กลุ่ม NSIADS
  • ยาแอสไพริน 
  • วิตามิน E
  • น้ำมันปลา ( Fish Oil ) 
  • สาหร่ายทะเล (omega 3)
  • เพราะ ยาหรือ อาหารเสริมดังกล่าวส่งผลต่อการไหลเวียนของเลือด เรียกง่ายๆ เลือดออกง่าย หยุดยาก

4) ควรงดสูบบุหรี่ ก่อนการผ่าตัดประมาณ 6 สัปดาห์ เพื่อป้องกันภาวะเนื้อเยื่อขาดเลือดมาเลี้ยง ทำให้เนื้อเยื่อตายได้ ถ้าสูบบุหรี่จัดต้องแจ้งแพทย์ให้ทราบทันที และควรงดสูบบุหรี่หลังผ่าตัดอย่างน้อย 2 สัปดาห์

5) หยุดดื่มสุรา ภายใน 24 ชั่วโมงก่อนผ่าตัด และควรหยุดดื่มสุราหลังผ่าตัดอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพราะ ถ้าหยุดแล้วท่านไปดื่มทันที รับรองเลิอดไหลเป็นน้ำแน่ๆ เพราะ alcohol มีส่วนกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต

6) อาบน้ำชำระร่างกายและสระผมให้สะอาด เพราะ อาจจะไม่ได้สระผม ไปเกือบ 1 สัปดาห์ เพราะ แผลที่เปลือกตาห้ามโดนน้ำ แต่ในคนไข้บางท่านที่ชอบดำน้ำและ มีแว่นตาดำน้ำใหญ่ๆ ที่กันน้ำได้ สามารถใส่แล้ว ทำการสระผมอย่างระมัดระวังได้นะครับ ุถ้าทนไม่ไหวจริงๆ ถ้าๆไม่ได้สระผม

7) ห้ามใช้เครื่องสำอางบริเวณหนังตาและผิวหนังรอบดวงตาหลังผ่าตัด 1 สัปดาห์

8) ในกรณีดมยาสลบ งดน้ำและอาหารก่อนผ่าตัดตามแพทย์สั่ง เพื่อป้องกันการสูดสำลักน้ำย่อยหรือเศษอาหารจากกระเพาะอาหารเข้าไปสู่ปอดระหว่างการได้รับยาระงับความรู้สึก

9) หลังผ่าตัด 1 สัปดาห์ควรใส่แว่นตากันแดด เพื่อความสบายตาในการมอง เนื่องจาก หลังผ่าตัด ตาจะเปิดกว้าง อาจมีความรู้สึกแสบตา เพราะ เห็นแสงจ้า นอกจากนี้ แว่นตากันแตด นอกจากกันแดดแล้ว ยังกันลม และ ฝุ่นด้วย

10) มีคนสนิทมาด้วย เพื่อพากลับบ้าน เพราะหลังผ่าตัดจะใช้สายตาไม่สะดวก ไม่ควรกลับบ้านตามลำพัง

ดูแลหลังผ่าตัด แก้ไขภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง

  1.  หลังผ่าตัดภายใน 24 – 72 ชั่วโมง นอนยกศีรษะสูง ประคบเย็นบริเวณดวงตาทั้งสองข้างเพื่อลดอาการบวม
  2. งดใช้สายตาในช่วงแรก ๆ เพราะการใช้สายตา อย่างการดูทีวีหรือการอ่านหนังสือ ต้องกะพริบตาและเปลือกตาเคลื่อนไหวตลอดเวลา ทำให้แผลอักเสบและหายช้า
  3. ใช้ไม้พันสำลีชุบน้ำเกลือ เช็ดคราบเลือด และสิ่งสกปรกออกอย่างเบามือ วันละ 2 – 3 ครั้ง เช็ดได้บ่อย ๆ เมื่อสกปรก
  4. หลังผ่าตัด 5 – 7 วัน แพทย์จะนัดติดตามอาการ แผลจะบวมอยู่ประมาณ 2 – 4 สัปดาห์ จากนั้นแผลจะหายเป็นปกติ ดูเป็นธรรมชาติประมาณ 1 เดือน
  5. หลังผ่าตัด 7 วัน ห้ามทานอาหารเผ็ดจัด เพราะจะทำให้เหงื่อออกมาก แผลเปียก ความดันเลือดสูงขึ้น อาจทำให้เลือดออกจากแผล
  6. หลังผ่าตัด 2 สัปดาห์ ต้องงดสุราและบุหรี่ เพราะมีผลกับการหายของแผลผ่าตัด งดการทำงานหรือการออกกำลังกายที่รุนแรง สามารถแต่งหน้าและแต่งแต้มดวงตาได้ตามปกติ
  7. หากมีอาการผิดปกติเกี่ยวกับแผล ได้แก่ ตาแดงมาก เคืองตา แผลแยก ต้องมาพบแพทย์ทันที
  8. ทานยาตามที่แพทย์สั่ง ถ้ามีอาการแพ้ยา เช่น คัน มีผื่นแดง คลื่นไส้ อาเจียน แน่นหน้าอก ให้หยุดทานทันทีและรีบมาพบแพทย์
  9. กรณีที่ใส่คอนแทคเลนส์ให้เปลี่ยนไปสวมแว่นตาในช่วงสัปดาห์แรกหลังผ่าตัด หรือจนกว่าจะหายบวม ห้ามดึงเปลือกตาเพื่อใส่คอนแทคเลนส์เด็ดขาด เพราะแผลผ่าตัดอาจแยกจากกันได้ หลังผ่าตัดครบ 14 วัน สามารถกลับมาใส่คอนแทคเลนส์ได้ตามปกติ
  10. ห้ามขยี้ตารุนแรงหลังผ่าตัด 2 เดือน
  11. หากมีอาการปวดแผล สามารถรับประทานยาแก้ปวดได้


การผ่าตัดแผลเล็กต้องอาศัยความชำนาญและประสบการณ์ของศัลยแพทย์ตกแต่ง เป็นสำคัญ นอกจากนี้ การผ่าตัดตา ไม่สามารถทำหลายๆครั้งแบบ เสริมหน้าอก หรือ เสริมจมูกได้นะครับ พังแล้วพังเลย แก้ยากมากยิ่งถ้ากรีดแผลยาวๆมา ดังนั้นก่อนทำการผ่าตัด ควรปรึกษา ศัลยแพทย์ผู้ชำนาญการก่อน โดยสามารถ

ปรึกษา การผ่าตัด ทำตาแผลเล็ก แผลมินิ เพิ่มเติมที่ line OA  ของคลินิก Grandmaster นะครับ

ข้อควรระวังและคำแนะนำ

แม้การทำผ่าตัดตาแผลเล็กจะมีข้อดีมากมาย แต่ก็มีข้อควรพิจารณาเช่นกัน เทคนิคนี้เหมาะที่สุดสำหรับผู้ที่มีเปลือกตาไม่หนามากและไม่มีปัญหาหนังตาหย่อนคล้อยอย่างรุนแรง หากมีหนังตาส่วนเกินเยอะมาก การผ่าตัดแบบกรีดยาวเพื่อตัดหนังตาส่วนเกินออกอาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่า

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การเลือกศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เทคนิคแผลเล็กเป็นหัตถการที่ต้องอาศัยความแม่นยำและประสบการณ์สูงในการสร้างชั้นตาที่สวยงามและเท่ากันทั้งสองข้าง ดังนั้น การศึกษาข้อมูลและเลือกปรึกษาศัลยแพทย์ตกแต่งที่มีความชำนาญและน่าเชื่อถือจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง ก่อนตัดสินใจ ควรเข้ารับการประเมินโครงสร้างตาอย่างละเอียด เพื่อให้แน่ใจว่าเทคนิคนี้คือคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับคุณ

สรุป

ภาวะ ตา 3 ชั้น หรือ หนังตาตกสามชั้น ไม่ได้เกิดจากอายุเพียงอย่างเดียว แต่ยังสัมพันธ์กับพฤติกรรม การดูแลผิว และโครงสร้างของเปลือกตา การแก้ไขที่เหมาะสมควรพิจารณาตามสาเหตุ หากเป็นเพียงชั่วคราวสามารถปรับพฤติกรรมได้ แต่หากเกิดจากหนังตาหย่อนจริง ควรปรึกษา ศัลยแพทย์ตกแต่งตาเฉพาะทาง เพื่อออกแบบชั้นตาใหม่อย่างปลอดภัยและคงทน

การมีดวงตาที่สดใส ไม่เพียงเพิ่มความมั่นใจ แต่ยังทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และมีพลังอยู่เสมอ หากคุณกำลังประสบปัญหา “ตา 3 ชั้น” อย่าปล่อยไว้จนกลายเป็นปัญหาเรื้อรัง การดูแลตั้งแต่วันนี้จะช่วยให้คุณกลับมามีดวงตาที่สวยและเปล่งประกายอีกครั้ง