เปิดหัวตา เทรนด์ฮิตที่ไม่จำเป็น! ศัลยแพทย์เผยความจริงที่คุณต้องรู้

เมื่อไม่กี่วันมานี้ ได้มีโอกาสคุยกับ รุ่นน้องศัลยแพทย์ตกแต่ง ท่านหนึ่ง จากบทสนทนาดังกล่าว ได้มีการพูดถึง เรื่องที่ มีคนไข้เข้ามาปรึกษาทำตาสองชั้นดังนี้

จุดเริ่มต้น: เมื่อคนไข้ขอ “เปิดหัวตา” ทั้งที่หัวตาเปิดอยู่แล้ว

นี่คือ บทสนทนาระหว่าง หมอ กะ น้อง
น้อง : ” พี่ๆ พี่ทำตาสองแบบเปิดหัวตาเป็นไม๊ ”
หมอ : อ๋อ Medial Canthoplasty นะหริ ก็ทำได้นะ แต่ มันมักเป็น แผลเป็น ตรงหัวตา
ในคนไทย ส่วนใหญ่ จะเห็นชัดนะ
น้อง : พี่ เดี๋ยวนี้คนไข้ เค้าฮิตกัน บอกว่าตา จะได้ เปิด เห็นหัวตายาวๆ
แบ๋วๆเหมือน ตาเกาหลี
หมอ :  เฮ้ย แต่ตาคนไทย นะ ส่วนใหญ่มันหัวตาแหลมๆ อยู่แล้ว ที่คนเกาหลีเค้าต้องทำ
Medial Canthoplasty   ก็เพราะคนประเทศเค้า มีปัญหาเรื่อง Epicanthal fold
หนาและกว้าง  คนไทยไม่ค่อยเป็นหรอก
( ขออนุญาตทับศัพท์ เป็นภาษาปะกิต เพราะ มันไม่ได้มีชื่อเรียกเป็นภาษาไทย )

 

น้อง กะ คนไข้
น้อง :  เออ ผมก็ว่าอยู่  เมื่อวานนี้ คนไข้มาปรึกษาผมว่า จะทำตา 2ชั้น แบบเปิดหัวตา
ผมก็ตรวจดู ไม่เห็นว่า คนไข้จะมีปัญหา Epicanthal fold  เลย
ผมก็เลยบอกว่า ไม่เห็นต้องทำนิ   ทำไปทำไม หัวตาคุณเปิดอยู่แล้ว
คนไข้ : ไหน ? ค่ะ หมอ  เปิดตรงไหน  ปิดชัดๆๆ หมอมองไม่เห็นหรือค่ะว่ามันปิดอยู่
น้อง :  ????

หมอ กะ น้อง
น้อง  : แล้วคนไข้ ก็ หยิบ Ipad ขึ้นมา แล้วก็ Load รูปภาพของ คนไข้ท่านหนึ่งที่ทำตากะ
คุณหมอชื่อดัง  ( จ้าวแห่งการผ่าตัดเปิดหัวตา ) แล้ว ก็บอกว่านี่งัยค่ะ หมอ !!
ผ่าตัดแบบเปิดหัวตา เค้าทำกันแบบนี้   แค่นี้หมอไม่รู้ ??? นู๋ไม่ทำกะหมอแล้ว
หมอ : แล้วมันเป็นยังงัย ง่ะ
น้อง  : มันเป็น ภาพหัวตาแบบ Tapered  ผ่าแล้วเป็น Paralleled   ง่ะพี่ !!
หมอ : หืม ??? แล้วอย่างนี้  มันต้องผ่าแบบ  Medial Canthoplasty ด้วยหรอ  ???
ในเมื่อ คนไข้หลายคน พอทำตา2ชั้น มันก็เป็นหัวตาแบบ Paralleled อยู่แล้ว
ไม่จำเป็น ต้องมาผ่าตัด Medial Canthoplasty ให้เป็นแผลเป็นที่หัวตา น่าเกลียดๆ
น้อง : ผม…นี่ งงไปเลยพี่  เดี๋ยวนี้ มีการทำการตลาดแปลกๆ
เอาศัพท์แพทย์ ยากๆ ที่คนไข้ไม่เข้าใจ  มาหลอกคนไข้ คิดเงิน คิดทองเพิ่ม
หมอ: อืมใช่ พี่ ก็เคยได้ยินมา อย่างเรื่อง เอาไขมันที่เปลือกตาออก ก็คิดเงินเพิ่ม
ในเมื่อ มันเป็นการผ่าตัดที่ ง่ายๆไม่ได้ยุ่งยากอะไร  เพราะจะเย็บสร้างชั้นตาได้
มันก็เอาไขมันออก อยู่แล้ว  ( ออกมาก ออกน้อยก็แล้ว แต่ตา )

ก่อนอื่นขออธิบายคำศัพท์ แพทย์ต่างๆ เพื่อเป็นความรู้นะครับ จะได้เข้าใจตรงกัน

1 . Medical Canthoplasty  คือ

การผ่าตัดเปิดหัวตา โดยการเลื่อนหัวตาที่มนๆ ( Epicanthal Fold ) ของคนไข้ให้แหลมและเห็นหัวตาแดงๆ
แพทย์บางคนไข้วิธีนี้เพื่อทำให้ตาดูยาว
ข้อเสีย : เกิดแผลเป็นบริเวณหัวตา เนื่องจากเนื้อบริเวณนี้ค่อนข้างบาง เวลาเกิดแผลเป็นจะเห็นชัด
โดยเฉพาะสีของแผลเป็น จะแตกต่างกับเนื่อของคนไข้อย่างชัดเจน

 

2. ฺEpicanthal fold คือ
ภาวะ ที่มีแผ่นเนื้อคล้ายกับพังผืด ยึดอยู่บริเวณหัวตา โดยยึดระหว่างเปลือกตาบนและเปลือกตาล่าง

ทำให้หัวตาคนไข้จะดูมนๆ กลมๆ  แบ่งระดับ ได้ 4 ระดับ  โดยคนไทยมีภาวะนี้น้อยไม่มาก และถ้ามีก็เป็น ระดับน้อยๆ

 

3. หัวตาแบบ Paralleled  คือ
คือชั้นตา 2ชั้นวิ่งเป็น เส้นคู่ขนานจากหางตาไปหัวตา

 

 

 

 

4. หัวตาแบบ Tapered คือ
คือ ชั้นตา 2 ชั้นวิ่งเป็น เส้นขนาดจากหางตา แต่ไปบรรจบรวมกันเป็นเส้นเดียวกันที่หัวตา

 

หลังจากที่ผมอธิบายคำศัพท์ดังกล่าวแล้ว หวังว่าจะได้เข้าใจตรงกันนะครับ และจะได้ คุยกับคุณหมอ คนที่ท่านสนใจได้ถูกว่า จริงๆ แล้วท่านต้องการอะไร และ จำเป็นต้องทำไหม ?  ถ้าต้องแลกระหว่างหัวตาแบบ Paralleled  กับแผลเป็นที่ไม่มีวันหายที่หัวตา ต้องคอยทา  eye shadow  กลบอยู่ตลอด  ท่านจะเอาไม๊
จากบทสนทนา ระหว่าง ผมกะ น้องหมอ ทำให้เห็นว่า เดี๋ยวนี้ มีการทำการตลาด โดยอาศัยความไม่รู้ของคนไข้ เอาคำศัพท์แพทย์ แปลกๆยากๆ มาทำการตลาด  เพื่อ upgrade- up price  หลอกล่อว่า ต้องทำแบบนั้น แบบโน้น  คิดเงินเพิ่ม ไปซ่ะทุกเม็ด
แน่นอนว่า  ตาของคนไข้บางคนทำยากมาก โดยเฉพาะกรณีที่ เป็นเคสแก้ตา และ เคสเบ้าตาลึกโบ๋ ที่จำเป็นต้องฉีด ไขมัน หรือ filler เติม  ซึ่งกรณีแบบนี้ก็ต้องเห็นใจหมอเค้าบ้าง ว่ามันยาก และมันจำเป็นต้องคิดราคาเพิ่ม      (  สำหรับหมอขอบอกเลย เคสไหนยากๆ หรือ ทำตามาแล้ว แหก เละ หมอก็ไม่อยากทำครับ ต่อให้เอาเงินมากองเป็นหมื่นเป็นแสน ก็ไม่อยากได้  )
    ถามตัวเองอีกครั้งว่าคุ้มหรือไม่?

“ก่อนตัดสินใจทำศัลยกรรมใดๆ ควรศึกษาข้อมูลแพทย์ให้ดีจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ เช่น เว็บไซต์แพทยสภา และต้องเข้าใจว่าไม่มีหัตถการใดที่เหมาะกับทุกคน การผ่าตัดที่ดีที่สุดไม่ใช่วิธีที่ฮิตที่สุด แต่เป็นวิธีที่ ‘เหมาะสมที่สุด’ กับโครงสร้างของเรา และให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและปลอดภัยในระยะยาว”
ท้ายสุดนี้ หมออยากให้คนไข้ ก่อนที่จะผ่าตัดทำอะไรซักอย่าง หาข้อมูลให้ดี ก่อนทำการผ่าตัด โดยเฉพาะข้อ-มูลของแพทย์  !!!  ซึ่งหมออยากย้ำอีกครั้งว่า การที่จะบอกว่า แพทย์ท่านใดเป็นผู้เชี่ยวชาญ ให้ค้นหารายชื่อจาก  website ของ แพทยสภา  ดูปีที่จบ  ดูประสบการณ์ชื่อเสียง ของท่านเหล่านั้น ที่สะสมมา  อย่างน้อย 10ปี  อย่างไรก็ตาม การทำศัลยกรรมมีความเสี่ยงนะครับ ตรวจดวงชะตาของท่านให้ดีก่อน ฮ่าๆๆๆ
ผมเชื่อว่า แพทย์ผู้มีประสบการณ์ทุกท่านจะพูดเหมือนกันอย่างนึ่งว่า ”  แม้ว่าจะทำผ่าตัดได้ดี ได้เก่งแค่ไหน ย่อมมีเคสที่มีปัญหา การที่หมอผ่าตัด ผ่าท่านและ เพื่อนของท่านสวย ไม่จำเป็นต้องทำญาติของท่านสวย  ความผิดพลาดเกิดขึ้นได้เสมอ
“หมอเองก็ไม่ได้เป็นหมอที่เก่งที่สุด แต่หมอยินดีจะให้คำแนะนำอย่างตรงไปตรงมาที่สุดครับ ”

เกี่ยวกับเรา