ถุงใต้ตา เรื่องที่ คนที่คนมี ไม่อยากมี คนไม่มี อยากมี
พอดีมีคนไข้ อายุเลยวัยรุ่น ( รุ่นเดียวกับหมอ ) มาสอบถามถึง เรื่อง ถุงใต้ตา ล่าง เพราะรู้สึกว่า ถุงใต้ตาเยอะ มีเยอะแล้วมันดูแก่ ดูไม่ดี แรกๆ ก็ไม่ค่อยสังเกตแต่พอตอนเช้าๆ ตื่นขึ้นมาเห็นชัดเจนเลย เลยอยากจะมาเอาออก ซึ่งพอหมอได้ฟังดังนี้ ก็นึกได้ว่า จริงด้วย เดียวนี้มีแต่ คนทำศัลยกรรมแล้วมา Review ตาสองชั้น / จมูก Pinocchio / เต้านมหัวเด็ก / ปากนกกระจิบ นกกระจับ เรียกได้ว่า เป็นยุค ศัลยกรรมเรียก like อย่างแท้จริง ผิดกับสมัย 10 ปีก่อนที่หมอเริ่ม โลดแล่นบนเส้นทางสายศัลยกรรมเป็นอย่างมาก ที่ คนส่วนใหญ่ไม่ว่าทำอะไรหรือเสริมอะไรมา ก็ไม่อยากให้ใครรู้ ใครทราบซักเท่าไร
อย่างไรก็ตาม ก็ใช่ว่าจะไม่มีการ Review การทำศัลยกรรมตาล่างกันซ่ะทีเดียว แต่การทำศัลยกรรมตาล่างที่ว่า เป็นการฉีดสารเติมเต็ม บริเวณขอบเปลือกตาล่าง หรือที่รู้จักกันว่า Charming Eye / Love Band ซึ่งผู้ Review นั้นก็มักเป็นเด็กสาววัยรุ่นกันซ่ะส่วนใหญ่ เพราะได้รับอิทธิพล จากภาพดารานักร้องเกาหลีว่า ถ้าใต้ตา มีถุงใต้ตา
ถุงใต้ตา เกิดขึ้นจากอะไร และแก้ไขอย่างไร ?
มีนิดๆ แล้ว จะดูมีเสน่ห์ ดูเหมือนตาฉ่ำแบบกำลังมีความรัก ฮ่าๆๆ ( ไม่รู้ว่า จะเหมือนผู้หญิงบานฉ่ำ –Pretty Women หรือเปล่า )
หมอครับ…ถุงใต้ตามันเยอะขึ้นมากเลย ตื่นเช้ามาเห็นชัดจนตกใจ มันดูแก่ ดูโทรม อยากเอาออก”
ประโยคคำถามจากคนไข้รุ่นราวคราวเดียวกัน ทำให้ผมนึกขึ้นได้ว่า โลกของศัลยกรรมความงามนั้นเปลี่ยนไปมากจริงๆ ในยุคที่โซเชียลมีเดียเป็นใหญ่ เรามักจะเห็นรีวิวตาสองชั้น จมูกทรงพินอคคิโอ หรือปากกระจับกันอย่างแพร่หลาย จนอาจเรียกได้ว่าเป็น “ยุคศัลยกรรมเรียกไลก์” ซึ่งแตกต่างจากเมื่อ 10 ปีก่อนโดยสิ้นเชิง ที่การทำศัลยกรรมยังเป็นเรื่องที่หลายคนอยากเก็บไว้เป็นความลับ
อย่างไรก็ตาม ศัลยกรรมบริเวณ “ตาล่าง” กลับมีมุมมองที่น่าสนใจและแตกต่างกันอย่างสุดขั้ว ในขณะที่วัยรุ่นอาจนิยมฉีดสารเติมเต็มสร้าง “Dolly Eye” หรือ “Love Band” ตามเทรนด์ดาราเกาหลี เพราะเชื่อว่าจะทำให้ดวงตาดูมีเสน่ห์ อ่อนหวาน และฉ่ำวาว แต่สำหรับผู้ที่ผ่านประสบการณ์ชีวิตมามากขึ้น หรือที่เรียกกันว่า “ผู้ใหญ่อาบน้ำร้อนมาก่อน” การเห็นถุงใต้ตาตุ่ยๆ นั้นไม่ใช่สัญญาณของความน่ารัก แต่เป็นสัญญาณของวัยที่ร่วงโรย ทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้าและแก่กว่าวัย จนอยากจะทำให้มันเรียบตึงมากกว่า
บทความนี้จะพาทุกท่านไปทำความเข้าใจถึง “ถุงใต้ตา“ อย่างลึกซึ้ง ตั้งแต่สาเหตุที่แท้จริง ไปจนถึงทุกแนวทางการรักษาที่มีในปัจจุบัน ทั้งแบบไม่ผ่าตัดและเทคนิคการผ่าตัดแต่ละวิธี เพื่อให้คุณเลือกแนวทางที่เหมาะสมกับตัวเองได้อย่างแท้จริง
แต่แน่นอนว่า ผู้ที่อาบน้ำร้อนมาก่อนเห็นตาแบบนี้หละก็ จะต้องทักว่า นี่มันตาอาม่า อากง ข้างบ้านฉันนี่น่า เพราะแน่นอนว่าถุงใต้ตาตุ่ยๆ นั้นคงไม่มีคนที่เลยวัยรุ่นนั้นชอบเป็นแน่ เพราะว่ามันดูแก่ และอยากทำให้มันเรียบ ไม่มีถุงมากกว่า
ถุงใต้ตา มาจากไหน? ทำไมยิ่งอายุมากยิ่งเห็นชัด
ก่อนอื่นหมออยากจะอธิบายความเข้าใจเรื่อง ถุงใต้ตา กันก่อนนะครับว่า ถุงใต้ตา นั้นมีที่มาที่ไปอย่างไร และเพราะอะไรอยู่ดีๆ ถุงมันถึงมาบูดออกมาใต้ตา ตาของคนเรานั้นไม่ได้ลอยอยู่เฉยๆในเบ้าตานะครับ แต่ยึดเกาะไว้ด้วยเส้นเอ็น และล้อมรอบไปด้วยไขมันตา ( Orbital Fat ) ส่วนด้านนอกบริเวณผิวหนังนั้น ลูกตาเรายังมีกล้ามเนื้อที่ล้อมรอบดวงตา ( Oribicularis Muscle ) เพื่อช่วยในการปกป้องดวงตา และทำให้เราหลับตาปี๋ได้สนิท เปรียบเสมือน หูรูด
เมื่ออายุมากขึ้น โครงสร้างทุกอย่างย่อมเสื่อมลงตามกาลเวลา:
- ผิวหนัง: สูญเสียคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้บางและหย่อนคล้อย
- กล้ามเนื้อรอบดวงตา (Orbicularis Oculi): อ่อนแรงและยืดย้วย ไม่สามารถพยุงไขมันได้ดีเท่าเดิม
เมื่อ “เขื่อน” ที่กั้นอยู่ (คือกล้ามเนื้อและผิวหนัง) อ่อนกำลังลง “ไขมัน” ที่อยู่ด้านในจึงค่อยๆ ปลิ้นหรือนูนออกมา กลายเป็น “ถุงใต้ตา” ที่เราเห็นนั่นเอง ในทางการแพทย์เรียกภาวะนี้ว่า Pseudoherniation of Intraorbital Fat เมื่อเข้าใจพยาธิสภาพเช่นนี้แล้ว เราก็จะเข้าใจหลักการรักษาในแต่ละวิธีได้ง่ายขึ้น
เมื่ออายุเรามากขึ้น กล้าเนื้ออะไร อะไร มันก็หย่อนยาน กล้ามเนื้อล้อมรอบดวงตาก็เช่นกัน มันก็หย่อนและย้วย ซึ่งเมื่อมันเริ่มหย่อนก็ทำให้ ถุงไขมันที่ล้อมรอบตาล่าง ค่อยๆยื่นออกมา คล้ายๆพุงของเรา ที่ยื่นออกมาเพราะกล้ามเนื้อเริ่มหย่อน ภาษาทางการแพทย์จะเรียก อาการเช่นนี้ว่า Pseudo herniate Intra orbital fat เมื่อเข้าใจ พยาธิสภาพแล้วว่า ถุงใต้ตาเกิดจากอะไร เราก็มีหลักการรักษา ดังนี้ครับ
1. Transconjuntival Lower Blepharoplasty : ซึ่งเป็นการผ่าตัดเอาเฉพาะถุงใต้ตาออก แบบไร้แผล ( ภานนอก ) แน่นอนว่าคนที่มีถุงใต้ตาทุกท่านย่อมอยากผ่าตัด วิธีนี้เป็นส่วนใหญ่ แต่ก็แน่นนอนว่า การผ่าตัดวิธีนี้ ไม่ได้เหมาะกับคนทุกคน ต้องเลือกที่เหมาะสม ( ผิวด้านนอกยังพอเต่งตึงอยู่บ้าง ) ซึ่งเหมาะสำหรับ คนอายุน้อยๆ ไม่เกิน40 ปี หรือถ้าเกิน40 แต่ตึงๆอยุ่ก็ไหว
การผ่าตัด Tranconjuntival Lower Blepharoplasty นั้น Agency เกาหลีบางที่ ก็เอาไปเชื่อเชิญโฆษณากับ คนไข้ที่มีตาแพนด้า ( ขอบตาคล้ำ ) ซึ่ง หมอต้องขอบอกเลยว่า คนไข้ที่มีขอบตาคล้ำหรือ ตาแพนด้านั้น แท้จริงแล้วมีหลายสาเหตุนะครับ ไม่ว่าจะเป็นเป็นภูมิแพ้ / กรรมพันธุ์ / การไหลเวียนโลหิตไม่ดี / เป็นปาน โอตะ อะไรบางนี้ ซึ่งการรักษาก็ต้องรักษาตามสาเหตุนะครับ ไม่ได้มาพึงมีดแล้วมันจะหาย
2. Trancutaneous Lower Blepharoplasty : ชื่อของวิธีนี้ ก็บอกยี่ห้ออยู่แล้วว่า วิธีเดิมๆ คือการกรีดเปลือกตาล่างบริเวณใกล้ขอบขนตาล่าง ตัดผิวหนังออกบางส่วน และ เอาไขมันออกร่วมด้วย แน่นอนว่าวิธีนี้ย่อมมีแผลเห็นบางบริเวณขอบตาต่าง แต่เมื่อเวลาผ่านไป แผลจะเห็นไม่ชัด ( คนไข้ส่วนใหญ่สามารภผ่าตัดวิธีนี้ได้ มีข้องจำกัดในบางคนเท่านั้น )
3. Skin Pinch Lower Blepharoplasty : วิธีนี้คือการตัดเฉพาะผิวหนังด้านนอกออก โดยเชื่อว่าจะทำให้ผิวด้านนอกตึงและเรียบโดย ไม่มีถุงได้ ข้อดีคือ มีการตัดผิวหนังออกไปเป็นส่วนน้อย และไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อ Structure ภายในเปลือกตาล่าง แต่ วิธีนี้ มีข้อกำจัดในการเลือกคนไข้เยอะมาก
( ไม่มีถุง มีแต่ผิวด้านนอกมีแต่ผิวหนังเหี่ยวๆ )
4. Transconjuntival + Skin Pinch Lower Blepharoplasty : วิธีนี้ เป็นการผสมผสาน ข้อดีของทั้ง 2 วิธีข้างต้น แต่ไปๆมาๆ ก็ไม่ต่างจากวิธี Traditional เลยเพียงแต่หลีกเลี่ยงผลแทรกซ้อนอันน่ากลัวที่สุดของ คนไข้ผ่าตัดถุงใต้ตาล่าง นั้นคือ แหกตา…ตาแหก
5. Lower Blepharoplasty with Fat Reposition : วิธีที่นี้ต้องบอกว่า เป็นวิธีที่เรียกว่า สุงสุดคืนสู่สามัญ ในความคิดของหมอนะครับ เพราะ จากวิธี Trancutaneous Lower Blepharoplasty ที่เรามักเอาไขมันออกจนหมด แล้วทิ้งไป แต่วิธีนี้ไม่เอาไขมันออกเพราะ มั่นใจในความมีประโยชน์ของไขมัน โดยพยายามเก็บไขมันไว้ให้มากที่สุด แต่ย้ายตำแหน่งของไขมัน ให้ไปเติมเต็มในส่วนที่ขาด โดยมีแนวความคิดว่า โดยปกติเมื่อคนเราอายุมากขึ้น กล้ามเนื้อรอบๆดวงตาก็หย่อนยานไปด้วย ทำให้เกิดร่องระหว่าง กล้ามเนื้อและ ถุงไขมัน เช่น ร่องน้ำตา และร่องใต้ตา จึงควรเติมเต็มด้วย Fat และ Fat ที่เหมาะสมที่สุดก็คือ Orbital Fat
เมื่อเราทราบแล้วว่า วิธีการผ่าตัดตาล่างนั้นมีหลากหลายวิธี แต่ละวิธีก็มีที่ใช้ในคนไข้ แต่ละคนที่แตกต่างกัน ซึ่งในคนไข้ที่มีปัญหาถุงใต้ตาของตาล่างนั้น หลายๆคนไม่ได้มีปัญหาเฉพาะถุง แต่มีปัญหาทั้ง ถุง รอยย่น และ เปลือกตาล่างห้อยจนเห็นขอบตาแดงๆ ด้านในด้วย ซึ่งในคนไข้ที่มีปัญหา เปลือกตาล่างห้อยจนเห้นขอบตาแดง จะต้องทำการแก้ไขไปพร้อมกับการ แก้ไขถุงใต้ตาด้วย
นั้นคือ ต้องทำ Lateral Canthopexy / Lateral Canthoplasty ( เย็บขึงขอบตาล่าง ) ร่วมด้วยเสมอเพื่อป้องกัน ตาแหก หลังการผ่าตัด
ที่สำคัญ การผ่าตัดตาล่างนั้นศัลยแพทย์ผู้ผ่าตัด จำเป็นต้องตรวจตาล่างของคนไข้ให้ละเอียด ก่อนจึงสามารถเลือกวิธีการผ่าตัดที่เหมาะสมให้แก่คนไข้ได้ เพราะจากประสบการณ์การผ่าตัดของหมอ บอกได้เลยว่า ถ้าผ่าตัดแล้วทำตาล่างคนไข้ ” แหก ” นั้นคือ ฝันร้ายดีๆนี่เอง
การจะเลือกเทคนิคใดนั้น ขึ้นอยู่กับการประเมินปัญหาของแต่ละบุคคลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ บางคนอาจมีเพียงปัญหาเดียว แต่หลายคนก็มักจะมีปัญหาหลายอย่างร่วมกัน เช่น มีทั้งร่องลึกและถุงใต้ตา ซึ่งแพทย์อาจแนะนำให้ใช้การรักษาแบบผสมผสานเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
การมีดวงตาที่สดใสไร้ร่องรอยความเหนื่อยล้า ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป ด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัยและปลอดภัย การปรึกษาแพทย์ผู้มีประสบการณ์เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับคุณโดยเฉพาะ คือกุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจและคืนความอ่อนเยาว์ให้กับใบหน้าของคุณได้อย่างเป็นธรรมชาติ
ถ้าท่านมีปัญหา ถุงใต้ตา หรือร่องน้ำตา สามารถแก้ไขโดยการผ่าตัดโยกย้ายไขมัน จัดเรียงไขมันได้
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด ถุงใต้ตา ที่ หมอเกมส์ แนะนำ
1) แจ้งข้อมูลสุขภาพกับแพทย์อย่างละเอียด ได้แก่
- ปัญหาสุขภาพ
- โรคร้ายแรง / โรคประจำตัว โดยเฉพาะ โรคเบาหวาน น้ำตาลไม่ควรเกิน 200 mg/dl ก่อนทำการผ่าตัด หรือ ถ้าต่ำได้กว่านั้นก็ยิ่งดี
- ประวัติการผ่าตัดและการได้ยาระงับความรู้สึก ยิ่งถ้าใครแพ้ยาชา ต้องบอกไว้นะครับ สำคัญมากๆๆ
- ฟันโยก ฟันปลอม และปัญหาเกี่ยวกับฟัน
- การแพ้ยา / แพ้อาหาร ตรงนี้ ยิ่งสำคัญ ถ้าไม่รู้ว่าเคยกินยาตัวนี้ไหม ให้บอกว่า ไม่รู้นะครับ อย่าไปบอกว่า ไม่แพ้
- อื่น ๆ
2) ในกรณีดมยาสลบ มีภาวะเสี่ยง หรือโรคประจำตัว จะมีการเตรียมพร้อมร่างกายสำหรับการผ่าตัดและดมยาสลบ ได้แก่
- การเอกซเรย์ ( X- ray )
- การตรวจเลือด ( CBC )
- การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ โดยเฉพาะคนอายุ 50 ปีขึ้นไปควรทำการตรวจถ้าต้องการดมยาสลบ
- ถ้าท่านมีโรคประจำตัว ก่อนผ่าตัดควรทำการปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านอายุรกรรม หรือ แพทย์ผระจำตัวของท่านก่อนทำการผ่าตัด
3) งดใช้ยา ยาบำรุง สมุนไพรบางชนิดที่อาจมีผลกับการผ่าตัด ก่อนการผ่าตัดอย่างน้อย 7 วัน และนำยาประจำตัวและยาสมุนไพรต่าง ๆ ที่รับประทานมาโรงพยาบาลเพื่อแจ้งแพทย์ในวันผ่าตัด เช่น
- ยาแก้ปวด กลุ่ม NSIADS
- ยาแอสไพริน
- วิตามิน E
- น้ำมันปลา ( Fish Oil )
- สาหร่ายทะเล (omega 3)
- เพราะ ยาหรือ อาหารเสริมดังกล่าวส่งผลต่อการไหลเวียนของเลือด เรียกง่ายๆ เลือดออกง่าย หยุดยาก
4) ควรงดสูบบุหรี่ ก่อนการผ่าตัดประมาณ 6 สัปดาห์ เพื่อป้องกันภาวะเนื้อเยื่อขาดเลือดมาเลี้ยง ทำให้เนื้อเยื่อตายได้ ถ้าสูบบุหรี่จัดต้องแจ้งแพทย์ให้ทราบทันที และควรงดสูบบุหรี่หลังผ่าตัดอย่างน้อย 2 สัปดาห์
5) หยุดดื่มสุรา ภายใน 24 ชั่วโมงก่อนผ่าตัด และควรหยุดดื่มสุราหลังผ่าตัดอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพราะ ถ้าหยุดแล้วท่านไปดื่มทันที รับรองเลิอดไหลเป็นน้ำแน่ๆ เพราะ alcohol มีส่วนกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต
6) อาบน้ำชำระร่างกายและสระผมให้สะอาด เพราะ อาจจะไม่ได้สระผม ไปเกือบ 1 สัปดาห์ เพราะ แผลที่เปลือกตาห้ามโดนน้ำ แต่ในคนไข้บางท่านที่ชอบดำน้ำและ มีแว่นตาดำน้ำใหญ่ๆ ที่กันน้ำได้ สามารถใส่แล้ว ทำการสระผมอย่างระมัดระวังได้นะครับ ุถ้าทนไม่ไหวจริงๆ ถ้าๆไม่ได้สระผม
7) ห้ามใช้เครื่องสำอางบริเวณหนังตาและผิวหนังรอบดวงตาหลังผ่าตัด 1 สัปดาห์
8) ในกรณีดมยาสลบ งดน้ำและอาหารก่อนผ่าตัดตามแพทย์สั่ง เพื่อป้องกันการสูดสำลักน้ำย่อยหรือเศษอาหารจากกระเพาะอาหารเข้าไปสู่ปอดระหว่างการได้รับยาระงับความรู้สึก
9) หลังผ่าตัด 1 สัปดาห์ควรใส่แว่นตากันแดด เพื่อความสบายตาในการมอง เนื่องจาก หลังผ่าตัด ตาจะเปิดกว้าง อาจมีความรู้สึกแสบตา เพราะ เห็นแสงจ้า นอกจากนี้ แว่นตากันแตด นอกจากกันแดดแล้ว ยังกันลม และ ฝุ่นด้วย
10) มีคนสนิทมาด้วย เพื่อพากลับบ้าน เพราะหลังผ่าตัดจะใช้สายตาไม่สะดวก ไม่ควรกลับบ้านตามลำพัง
ดูแลหลังผ่าตัด ถุงใต้ตา ที่ หมอเกมส์ มักแนะนำคือ
- หลังผ่าตัดภายใน 24 – 72 ชั่วโมง นอนยกศีรษะสูง ประคบเย็นบริเวณดวงตาทั้งสองข้างเพื่อลดอาการบวม
- งดใช้สายตาในช่วงแรก ๆ เพราะการใช้สายตา อย่างการดูทีวีหรือการอ่านหนังสือ ต้องกะพริบตาและเปลือกตาเคลื่อนไหวตลอดเวลา ทำให้แผลอักเสบและหายช้า
- ใช้ไม้พันสำลีชุบน้ำเกลือ เช็ดคราบเลือด และสิ่งสกปรกออกอย่างเบามือ วันละ 2 – 3 ครั้ง เช็ดได้บ่อย ๆ เมื่อสกปรก
- หลังผ่าตัด 5 – 7 วัน แพทย์จะนัดติดตามอาการ แผลจะบวมอยู่ประมาณ 2 – 4 สัปดาห์ จากนั้นแผลจะหายเป็นปกติ ดูเป็นธรรมชาติประมาณ 1 เดือน
- หลังผ่าตัด 7 วัน ห้ามทานอาหารเผ็ดจัด เพราะจะทำให้เหงื่อออกมาก แผลเปียก ความดันเลือดสูงขึ้น อาจทำให้เลือดออกจากแผล
- หลังผ่าตัด 2 สัปดาห์ ต้องงดสุราและบุหรี่ เพราะมีผลกับการหายของแผลผ่าตัด งดการทำงานหรือการออกกำลังกายที่รุนแรง สามารถแต่งหน้าและแต่งแต้มดวงตาได้ตามปกติ
- หากมีอาการผิดปกติเกี่ยวกับแผล ได้แก่ ตาแดงมาก เคืองตา แผลแยก ต้องมาพบแพทย์ทันที
- ทานยาตามที่แพทย์สั่ง ถ้ามีอาการแพ้ยา เช่น คัน มีผื่นแดง คลื่นไส้ อาเจียน แน่นหน้าอก ให้หยุดทานทันทีและรีบมาพบแพทย์
- กรณีที่ใส่คอนแทคเลนส์ให้เปลี่ยนไปสวมแว่นตาในช่วงสัปดาห์แรกหลังผ่าตัด หรือจนกว่าจะหายบวม ห้ามดึงเปลือกตาเพื่อใส่คอนแทคเลนส์เด็ดขาด เพราะแผลผ่าตัดอาจแยกจากกันได้ หลังผ่าตัดครบ 14 วัน สามารถกลับมาใส่คอนแทคเลนส์ได้ตามปกติ
- ห้ามขยี้ตารุนแรงหลังผ่าตัด 2 เดือน
- หากมีอาการปวดแผล สามารถรับประทานยาแก้ปวดได้
การผ่าตัดต้องอาศัยความชำนาญและประสบการณ์ของศัลยแพทย์ตกแต่ง เป็นสำคัญ นอกจากนี้ การผ่าตัดตา ไม่สามารถทำหลายๆครั้งแบบ เสริมหน้าอก หรือ เสริมจมูกได้นะครับ พังแล้วพังเลย แก้ยากมากยิ่งถ้ากรีดแผลยาวๆมา ดังนั้นก่อนทำการผ่าตัด ควรปรึกษา ศัลยแพทย์ผู้ชำนาญการก่อน
โดยสามารถปรึกษา การผ่าตัด ทำตาแผลเล็ก แผลมินิ เพิ่มเติมที่ line OA ของคลินิก หมอเกมส์ Grandmaster นะครับ
ถ้าคุณกำลังมองหาหมอทำตาที่มีฝีมือ ประณีต และให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาของท่าน หมอเกมส์ คือตัวเลือกที่คุณไม่ควรพลาด ลองเข้าไปปรึกษาที่ GrandMasterClinic เพื่อรับคำแนะนำที่ถูกต้องและเหมาะสมกับตัวคุณเอง แล้วคุณจะรู้ว่าดวงตาที่สวยงามไม่ได้เป็นเพียงแค่ความฝันอีกต่อไปถุงใต้ตา

.jpg)



.jpg)

.gif)
