อยากรู้ไหม ?? วิธีการเสริมจมูก บนโลก มนุษย์มีกี่วิธี ??

ก่อนจะเข้าเรื่องราว ตามหัวเรื่อง หมอขอเกริ่นนำให้ฟังก่อนว่า หลังจากไปงานประชุมศัลยแพทย์ตกแต่งที่ประเทศเกาหลีมา ก็ได้เห็นวิธีการเสริมจมูก มาหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น เสริมจมูกแบบใช้กระดูกอ่อนหลังหูมาหนุนปลายจมูก / เสริมจมูกแบบแต่งปลายจมูกด้วยกระดูกอ่อนหลังหู / เพิ่มความยาวของปลายจมูกด้วยกระดูกอ่อนแกนกลางจมูก /  เพิ่มความยาวของจมูกด้วยกระดูกอ่อนหลังหูโดยตั้งแกนปลายจมูกให้ยาวขึ้น แล้วประกบรอบด้านด้วยกระดูกอ่อน เพื่อเพิ่ม projection และความแข็งแรง

 

 

แต่ขอบอกหน่อยว่า  การเสริมด้วยกระดูก ( อ่อน )ซี่โครง,  กระดูก( อ่อน )ก้นกบ หรือ เอากระดูก( อ่อน ) มาสับ ให้ละเอียดและฉีดเข้าไป ( Dice cartilage ) นั้นยังไม่ได้รับความนิยมในประเทศเกาหลีใต้นะครับ  …คาดว่า วิธีดังกล่าวข้างต้นมีใช้แล้วในประเทศไทย อย่างไรก็ตามหมอมักบอกเสมอว่า      ” ใหม่สุด ไม่ได้บอกว่า ดีที่สุดนะครับ ”  หรือ ” เห็นว่าเพื่อนทำมาสวย ก็ไม่ได้รับประกันว่าเราจะสวยเหมือนเพื่อน.. มีแค่โอกาสสวยเท่านั้น ”

หลายคนคงพอจำเรื่องราวของหมอศัลยแพทย์หัวใจ ชาวอเมริกันชื่อดังออกมา กล่าวโทษตัวเองว่า ตัวเองทำให้ระบบโภชนาการของโลกนั้นเสียหายมามากว่า 30 ปี โดยรณรงค์ให้มีการเปลี่ยนจาก น้ำมันหมู มาใช้น้ำมันพืชแทน  โดยกล่าวโทษน้ำมันหมูว่า ทำให้เกิด Cholesterol ในกระแสเลือดสูงและเป็นตัวการที่ทำให้ หลอดเลือดหัวใจอุดตัน   ( ตอนนั้นหมออายุ 10 กว่าขวบพอจำได้อยู่ว่า เมื่อก่อนแม่ใช้ให้ไปซื้อน้ำมันหมู … ที่ตลาดอยู่เลย )
แต่แท้จริงแล้ว ตัวการที่ทำให้ไขมันอุดตันจริงๆ คือ การอักเสบของหลอดเลือด เพราะถ้าหลอดเลือดไม่เกิดการอักเสบ ก็ไม่สามารถทำให้ Cholesterol มาเกาะได้แล้ว สาเหตุอะไรบ้างที่ทำให้หลอดเลือดอักเสบ .. จริงๆการที่เราไม่สบายก็เกิดการอักเสบในหลอดเลือดได้แล้วละครับ   แต่ที่ทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรังพอที่จะเป็นสาเหตุให้ Cholesterol มาอุดตันได้นั้นคือ….. PolyUnsaturated  fat ที่อยู่ในน้ำมันพืช  ฮ่าๆๆๆ ตลกร้ายไม๊ครับ  แต่นี้คือเรื่องจริง    …. ตอนนี้ ต้องหันกลับมารณรงค์การใช้น้ำมันหมูเหมือนเดิม

 

 

ตอนนี้เรามาเข้าเรื่องของเราดีกว่า  ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า การผ่าตัดเสริมจมูกแท้จริงแล้ว มีกี่วิธี??   โดยทั่วไปการเสริมจมูก มีวิธีการเสริม 3 วิธีหลัก  ( ฉีดจมูกไม่นับเป็นการผ่าตัดนะ ฮ่าๆ เห็นชัดๆว่า เขียนว่า Non-Surgical  )

 

 

1. การเสริมแบบ Closed technique
คือ การเสริมจมูกโดยมี แผลผ่าตัดในรูจมูก ดังรูปด้านบนโดยจะลงแผลด้านเดียว หรือ สองด้านก็ได้ ตามแต่แนวคิดและหลักการ หรือ ตามที่อาจารย์แต่ละท่านสั่งสอนกันมา จากนั้นก็ทำการ เลาะขยายโพรงจมูก แล้วค่อยวาง Silicone เสริมจมูกอีกที ดังนั้นจะเห็นได้ว่า การเสริมแบบ Closed นั้นไม่ได้ไปยุ่งกับโครงสร้างพื้นฐาน ( Framework ) ของจมูกเท่าใดนัก   คราวนี้ก็แล้วแต่ละที่ จะเสริมกระดูกอ่อน กระดูกแก่ หรือ หนังเทียมเข้าไปเพิ่มเติมก็แล้วแต่ครับ

 

 

2. การเสริม แบบ Open technique
คือ การเสริมจมูกโดยมีแผลผ่าตัดทั้งภายในและภายนอกจมูก – บริเวณฐานจมูก
โดยมีหลักการคือ ต้องการเปิดเข้าไปเพื่อ จัดแต่งและแก้ไข โครงสร้างพื้นฐานของจมูก ไม่ว่าจะเป็นส่วนสันจมูก ที่มีโหนก (  Hump ) หรือ ตกแต่ง โดยเฉพาะส่วนปลายจมูก เช่น ปลายจมูกเก่าสั้นและเชิด ต้องการแก้ไขให้ยาวขึ้น  พุ่งขึ้น หยดน้ำขึ้น หรืออะไรก็แล้วแต่ ตามแต่ Imagine ของเรา( อย่าลืมนะครับ ทุกอย่าง มี Limited ในตัวของมันเอง ) ไม่ใช้ว่าพอหมอบอกว่า ต่อจากสั้นให้ยาวได้  ก็คิดว่าทำได้นะครับ  จริงมันมีข้อจำกัดอยู่หลายข้อ  เช่น กระดูกที่เอาต่อ ไม่แข็งแรงพอ หรือเอามาต่อแล้วกระดูกนั้นตายเพราะขาดเลือดไปเลี้ยง หรือ แม้กระทั้งพอต่อให้กระดูกยาวแล้ว พอจะดึงผิวหนังมาปิด ปิดไม่ได้ตึงเกินไปอีกก็มีนะครับ ทำให้ปลายผิวหนังขาดเลือดก็เยอะ

 

 

3. การเสริมแบบ Korea Technique
คือ การเสริมจมูก โดยมีกระบวนการ 3 อย่างคือ 1 ) เปิดแผลแบบ Open เพื่อเข้าไปตกแต่งที่ปลายจมูก ( Tip plasty ) 2. เสริมSilicone เฉพาะตรงสันจมูกจนมาเกือบปลายเท่านั้น ( Dorsal Augmentation ) เพราะตรงปลายจะตกแต่งด้วยกระดูกอ่อน และการเย็บ Interdome Suture  3.ทุบกระดูกด้านข้างจมูกแบบ Lateral Osteotomy  และลดขนาดโดยการประกบเข้าหากัน    ต้องบอกเลยว่า หมอเกาหลีจะทำแบบนี้เป็น Standard ทุกเคสไม่มียกเว้น

 

 

ในประเทศไทยนั้น การผ่าตัดส่วนใหญ่จะเป็นแบบ Closed technique คือ การเสริมจมูก โดยการใส่ซิลิโคนที่ ปรับแต่งทรงแล้วใส่เข้าไปทางรูจมูก ซึ่งจะเสริมซิลิโคนตั้งแต่ สันจมูกจนถึงปลายจมูก ในคนไข้บางคนอาจพบ ปัญหาเรื่องปลายจมูกบางจากซิลิโคนได้บ่อย  อาจบางจนถึงขั้นที่ซิลิโคนทะลุออกมา แพทย์หลายท่านจึงไม่นิยม เสริมปลายจมูกให้ยาวเกินปกติ หรือยาวแบบมี หยดน้ำ
แต่ก็อย่างที่บอก บางหมอบางท่านก็พยายามสรรหา วิธีแปลกๆใหม่ๆโดยการทำแบบ Open Technique  เพื่อให้จมูกยาว หยดน้ำ โดยไม่ได้นึกถึงความเข้ากันของใบหน้าของคนไข้เลย  ฮ่าๆๆ  ( เคยมีคนไข้ เสริมๆ แก้ๆ หมดเงินหมดทองไปเป็นแสนๆ กับปลายจมูกหยดน้ำเนี่ยแหละ …. ครั้งแรกเสริมปกติดูดี …… ไม่พอใจเห็นเพื่อนเสริมปลายหยดน้ำปลายจมูกยาวๆ เลยไปแก้บ้าง ….. ปรากฏตัวเองพอแก้แล้ว หน้าดูดุ ไม่เข้ากับหน้าเพื่อนๆ ทักไม่สวยจิตตกอีก …… กลับมาแก้เอาแบบเดิม   ) ตัวอย่างดังกล่าวนี้ยังถือว่า โชคดีอยู่เพราะมีโอกาสแก้นะครับ   บางรายไม่มีโอกาสจะแก้อีกเลยด้วยซ่้ำไปเพราะ ไม่มีหมอไหนกล้าจับ

แต่หมอไม่ได้บอกว่า การเสริมแบบ Open หรือ การเสริมแบบ Korea Rhinoplasty จะดีเป็นเจ้าพระยาชนะเลิศนะครับ  บอกได้คำเดียวเวลาสวยก็ สวยจริงๆ  แต่เวลาเคสพวกที่ทำการผ่าตัดกล่าว แล้วเกิดปัญหาขึ้นมา เรียกได้ว่า สยองกว่า แก้ยากกว่า การทำ Closed Technique เป็นไหนๆๆ   เปรียบเสมือนว่า ถ้าคุณยิ่งผูกปมเชือกให้ ซับซ้อนมากแค่ไหน  เวลาแก้ยิ่งแก้ยากมากเท่านั้น  เรียกได้ว่า เป็นฝันร้ายที่ไม่มีโอกาสได้ตื่นขึ้นมา (  nightmare Rhinoplasty )

 

 

จึงอยากจะทิ้งท้ายให้ น้องๆหมอและคนไข้ที่ผ่านเข้ามาอ่าน ว่า  ทำอะไรก็ตามต้องมองถึงทางหนีทีไล่ไว้ด้วย หรือไม่ก็ต้องมองเผื่ออนาคตของคนไข้ไว้ด้วย
” เพราะคนไข้อาจไม่ได้ทำจมูกกับคุณเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิต ต้องเผื่อให้เค้ามีโอกาสไปแก้ด้วย  หรือในอนาคตคุณหมอคนผ่าอาจจะตายไปก่อนคนไข้  หมอคนอื่นที่มาแก้ให้จะได้ไม่ด่า จนคุณหมอที่ตายไปแล้วต้องลุกขึ้นมาจากหลุมเพื่อแก้ต่างนะครับ ฮ่าๆๆๆๆๆ “