จะฉีดไขมันเข้าหน้าดีไหมหนอ ??? ( Face lipofilling is ok ??? )

1. เส้นเอ็นยึดเกาะ ( Retaining Ligament )  มีความสำคัญ ในการคงสภาพใบหน้าเอาไว้ แต่เมื่อเราอายุมากขึ้น เส้นเอ็นพวกนี้ ก็ หย่อน ยืด ห้อยลง ( เหมือนหนังสติ๊ก เสื่อมสภาพเนื่องจากผ่านการใช้งานมาอย่างหนัก จากการแสดงอารมณ์ออกทางหน้าตา ไม่ว่า  การที่เรายิ้ม หัวเราะ ร้องไห้ โกรธ ( นอกจากเราจะไม่แสดงอารมณ์เลยทางสีหน้าแบบ น้องในโฆษณาธนาคารสีเขียว ) และเมื่อเราใช้มันมา 40 ปี หรือบางคนอาจเร็วกว่า  ก็ทำให้เส้นเอ็นพวกนี้หมดสภาพ ไม่ต่างอะไรกับหนังสติ๊กที่หมดสภาพการใช้  ทำให้เส้นเอ็นเหล่านี้ขาดคุณสมบัติในการยึดเหนี่ยว ดึงรั้ง หนังหน้าของเราเอาไว้ มันจึงเริ่มห้อยลงมา ไม่ว่าจะเป็นคิ้วที่เริ่มตก ร่องแก้มที่ชัดขึ้น

 

 

2. ไขมัน (Fat Volume) ไขมันบนใบหน้าจะเป็นอย่างไร เมื่อเราอายุมากขึ้น ? โดยปกติ แนวโน้มของไขมันบนใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นที่แก้มหรือที่เบ้าตา ขมับ จะมีแนวโน้ม ฝ่อ หดตัว ลดขนาดลง  (เรียกง่ายๆว่า Volume บนใบหน้ามันหายไป เมื่ออายุเรามากขึ้นนะครับ ) หลายคนอ่านมาถึงตรงนี้ อาจมีความคิดว่า งั้นคนอ้วน ก็ต้องมีโอกาสแก่ช้ากว่าคนผอมละซิ ?? งั้นไปกินให้อ้วนๆดีกว่า  ต้องบอกว่า อันนี้ คงขึ้นกับแต่ละบุคคล เพราะมันยังมีเรื่องของ เส้นเอ็นยึดเกาะที่กล่าวไว้ข้างต้น    เพราะถ้าเส้นเอ็นยึดเกาะมันไม่แข็งแรงแล้ว มันก็ไม่สามารถยกน้ำหนักของไขมันเอาไว้ ไขมันก็ยิ่งไปหน่วงให้มันห้อยย้อยลงมาง่ายกว่าเดิมอีก  จะสังเกตได้ง่ายๆจาก ร่องแก้มที่ชัดเจนขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น

 

 

คราวนี้พอเราเข้าใจถึงความแก่อย่างลึกซึ้งแล้ว เราก็ต้องหาทางแก้ปัญหา ทั้ง 2 อย่างดังกล่าว คือ

  1. เพิ่มความแข็งแรงของเส้นเอ็นยึดเกาะ
  2. เพิ่ม Volume ของใบหน้า

แต่ในบทความนี้เราจะพูดเฉพาะในเรื่องของ การ เพิ่ม Volume บนใบหน้าด้วยการ ฉีดไขมัน เข้าหน้ากันนะครับ การฉีดจะฉีดไขมัน หรือ จะฉีดฟิลเลอร์นั้น จริงๆ ไม่ได้มีความแตกต่างเท่าไรในการเพิ่ม Volume ของใบหน้า แต่การจะนำมาใช้นั้น มีวิธีการเตรียมที่แตกต่างกัน ซึ่งมีผลต่อ การคงอยู่ของไขมันในระยะยาวในตำแหน่งที่ฉีดนั้นแตกต่างกัน โดยความต่างหรือความพิเศษมีดังนี้

 

1. ตำแหน่งของไขมันที่ดูด
แน่นอนว่า ต้องดูดจากตำแหน่งที่ควรดูด !!!  เพราะไขมันในแต่ละตำแหน่งของร่างกายนั้นคุณภาพไม่เท่ากัน ( ย้ำว่าอย่า มโนว่าเองว่า ” ฉันจะดูดไขมันที่พุง ดูดไขมันที่ต้นขาให้ผอมเพรียว แล้วนำมาฉีดใส่หน้าให้สวย !!! )   เพราะไขมันที่มีคุณภาพที่สุด ที่เหมาะสมนำมาเป็น Fat graft หรือ ทำ Fat transfer นั้นไม่ได้อยู่ตรงนั้น

 

 

2. การใช้อุปกรณ์ในการดูด
ในอดีตมีหมอ มโน ว่า จะใช้เครื่อง VASER liposuction มาดูดไขมันตามร่างกายแล้ว เอาไขมันที่ดูดนั้นมาฉีดใส่นม  ฉีดกันไปหลายร้อย หลายพันคน สรุป นมโตอยู่ช่วงฉีด-หลังฉีดไม่เท่าไรก็เหี่ยวเหมือนเดิม   ทำไมใช้เครื่องนี้ดูดไม่ได้ เพราะว่า เครื่องนี้ ทำลายเซลล์ไขมันให้แตก เอาง่ายๆทำให้ เม็ดไขมันระเบิด  (ไม่เถียงว่าเครื่องนี้ดีมากในแง่ของการดูดไขมัน เพราะไม่ต้องไปกังวลเรื่อง ดูดไขมันแล้วเม็ดไขมันหลุดเข้าเส้นเลือดแล้วไปอุดปอด !!!   ไม่รู้ว่าหลายคนลืมเรื่องนี้ไปแล้วหรือยัง ) แต่ของเสียจากการดูดของ Vaser นั้นเอาไปใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้เลย
ฉะนั้น เครื่องมือในการดูด หรือ แม้แต่ขนาดของเข็มที่ใช้ในการดูด ก็มีผลต่อคุณภาพไขมันที่จะนำมาปลูกถ่าย หรือ นำมาใช้ต่อ

 

 

3. อุปกรณ์คัดกรองไขมันที่ได้จากการดูด
ทำไมต้องมีเจ้าเครื่องนี้ด้วย ???  ต้องบอกว่า หลายคลินิกในไทย จะใช้วิธีโบราณที่เลิกใช้ไปแล้ว นั้นก็คือ การเอาไขมันที่ดูดได้ ใส่หลอดแล้ว เอาไปปั่นในเครื่อง Centrifuge ( เครื่องปั่นสารเคมีตามห้องทดลอง ) โดยจะพยายามแยกชั้นไขมัน จากสารอื่นๆที่ดูดออกมาด้วย เช่น เลือด หรือ น้ำ กับ กากของไขมัน และ เหลือเศษเนื้อไขมันดี นิสหน่อย ???  เอาจริงๆ หมอคนดูดเอามาใช้ก็ไม่แน่ใจว่ามันดีจริงหรือเปล่า 5555  และจริงๆ พอดูดออกมาแล้ว คัดออกมาแล้วถึงเวลาจะฉีด เหลือไขมันเนื้อดีไม่เท่าไร ก็จำเป็นดูดเอากากไขมันที่ตายแล้วมาฉีดเพิ่ม 5555 รู้นะว่าทำกัน !!!!
จะให้พูดจริงๆ ไอ้เครื่องคัดกรองไขมันแบบเจ๋งๆ ประเภทมีแผ่นกรอง Nano คัดเฉพาะไขมันดีๆ ได้จริงๆ ราคาหลัก 10 ล้านนั้นในไทย มีไม่ถึง 5 เครื่อง ซึ่งส่วนใหญ่ ก็อยู่ใน lab โรงเรียนแพทย์เท่านั้นแหละ

4. เครื่องมือในการฉีดใส่หน้า
อย่าไปคิดว่า เข็มที่ฉีดใส่หน้าจะไม่สำคัญนะครับ ต้องบอกเลยว่าสำคัญสุด !!!  หมอหลายท่านพยายามใช้เข็มขนาดเล็กๆ( 27 G ) หรือ ขั้วต่อพิเศษ เพื่อที่ว่า ถ้าเครื่องมือในข้อ 3 ไม่ดีหรือที่คลินิกไม่มี ก็ อาศัยว่าปลายเข็มเล็กๆ ขั้วต่อดีๆมาช่วยคัดกรองขนาดของ ไขมันอีกที เพื่อให้ได้ เซลล์ไขมันขนาดเล็กๆเข้าไปในใบหน้า  แต่พอเข็มฉีดขนาดเล็ก..พอเอามาฉีด เซลล์ขนาดใหญ่ มันฉีดยาก ต้องใช้แรงเยอะ ฉีดไปฉีดมาข้อต่อระหว่างเข็มกับ Syringe หลุดอีก ไขมันที่อุตส่าห์ดูดมา กระจายใส่หน้าคนไข้ และ คนฉีดอีก 5555
การที่หมอเค้าทำแบบนี้ เพราะอยากให้ไขมันฉีดใส่หน้านั้น ขนาดเล็ก ไม่เป็นก้อนอยู่บนใบหน้า

 

5. เทคนิคการฉีดไขมันบนใบหน้า
อันนี้ไม่ข้อพูดมากแล้ว เจ็บคอ  เอาเป็นว่า ฉีดให้ดูอย่าเป็นก้อน ฉีดแล้วให้ดูเรียบเนียน ส่วนจะทำกันแบบไหนคงมาจากการเรียนรู้และ สร้างสมประสบการณ์ จากคนไข้

ดังนั้นก่อนจะฉีดหาข้องมูลให้ดี เดี๋ยวนี้ฮิตมาก เรื่องฉีดไขมัน
ก่อนจะจบบทความนี้ ลองถามหมอคนฉีดเค้าหน่อยว่า ถ้าฉีดแล้วเป็นก้อน หรือ ฉีดแล้วไม่ชอบ หมอจะแก้ให้อย่างไร ????

  1. ดูดใหม่-ฉีดใหม่ เจ็บตัวอีก
  2. เอากากไขมันที่แช่ตู้เย็นเมื่อฉีดครั้งก่อน  มาฉีดให้จะได้ไม่ต้องดูดใหม่ มันใช้ได้จริงหรอ ?
  3. ฉีดสลาย ??  มียาสลายหรอ ??  อย่าบอกนะเอาพวก Meso โน้นนี้นั้นมาฉีด ! มันยุบหรอ?
  4. ผ่าออก ??

หมายเหตุ ถ้าหมอเค้า ตอบได้หมด ก็ อยู่ที่ท่านว่าจะฉีดไม่ฉีดนะครับ 5555  ส่วนตัวหมอไม่ได้ Anti กับการฉีด ไขมันเข้าหน้านะครับ  มันได้ผลดีจริง ถ้าเครื่องมือดี และผู้ฉีดมีความเชี่ยวชาญนะครับ